ตร.จู่โจมจับผู้ทุจริตโครงการเที่ยวด้วยกันได้ผู้ต้องหาอื้อ ตั้งข้อหาฉ้อโกงและนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ
พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3บก.ป.นำกำลังบก.ป3-5 บุกเข้ารวบผู้ประกอบการโรงแรมและร้านค้าที่มีพฤติกรรมทุจริตในโครงการเที่ยวทั่วไทย และโครงการคนละครึ่ง(โครงการรัฐ) ภายในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ โดยมีผู้ทุจริตในลักษณะดังกล่าวสูงกว่า 9 พันราย เป้าหมายเจ้าหน้าชุดจับกุมในวันนี้มีเป้าหมายทั้งหมด 41 จุดที่ผ่านมา
ล่าสุดเช้าวันนี้สามารถเข้าจับกุมได้ 38 ราย มีโรงแรม 1 ร้าน และร้านค้านับ 10 ร้านผู้กระทำผิด 38 ราย เบื้องต้นต้องข้อหา 1.ฉ้อโกง 2.นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ ส่วนมีผู้ที่ทุจริตทั้งหมด 9 พันกว่าราย เจ้าหน้ากำลังเร่งตรวจสอบก่อนที่จะเข้าจับกุมในภายหลัง โดยจังหวัดชัยภูมิมีโรงแรมกระทำความผิดได้ทำการเปิด Application ชื่อถุงเงินเพื่อให้ประชาชนได้มาใช้สิทธิ์อันที่สองประชาชนผู้ใช้สิทธิ์ประชาชนเข้าไปใช้ในแอปเป๋าตังเพื่อนำมาใช้กับแอปถุงเงินซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ทุจริตโดยเป็นแหล่งรองรับคูปองหรือส่วนลดดังกล่าว โดยมีประชาชนที่เข้ามาใช้แอปสามารถใช้จ่ายเงินได้กว่า 9,000 บาทต่อคน
นอกจากนี้ยังพบชาวบ้านผู้ว่างงานจากพิษโควิด-19 ได้หลงเชื่อเข้าร่วมกับขบวนการ โดยแม่ผู้ต้องหารายหนึ่งในพื้นที่ ต.บุ่งคล้า อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ได้เดินทางมารอพบกับลูกหลังจากที่ทราบว่าลูกสาวตนเองถูกตำรวจจับในข้อหาร่วมกับขบวนการฉ้อโกงโครงการเที่ยวทั่วไทย(โครงการรัฐ) โดยอ้างว่าหลังจากลูกสาวตกงานจากพิษโควิดในรอบแรกได้กลับมาอยู่บ้าน ต่อมามีคนที่รู้จักกันได้ชักชวนให้ร่วมโครงการเที่ยวทั่วไทยโดยไม่ต้องทำอะไร เพียงแต่ขอสำเนาบัตรประชาชนเท่านั้นก็จะได้เงินใช้ ลูกสาวตนเองจึงหลงเชื่อได้มอบสำเนาบัตรประชาชนจึงได้รับ Gift Voucher จากทางโรงแรมไปใช้จำนวน 5,000 บาท โดยจะแบ่งกับทางโรงแรมผู้ที่นำบัตรประชาชนไปได้ให้เงินครั้งแรกและครั้งเดียว 4,000 บาท และไม่คิดว่าลูกสาวจะถูกจับไปด้วยซึ่งไม่ทราบว่าผิดกฎหมายก็เห็นเขาทำกัน และต่อจากนี้ไปคงได้แต่ก้มหน้าชดใช้รับผิดตามกฎหมายต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่ : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews