“สมชัย” ร้อง เสรีพิศุทธิ์” สอบคลิปเสียง”แรมโบ้” เรียกรับเงิน 15 ล้านนำไปใช้ในการเลือกตั้ง เตรียมนำเข้าที่ประชุมขอมติ เพื่อบรรจุเป็นวาระปลายเดือนนี้ มองง่ายกว่าคดีนาฬิกา
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎรรับหนังสือร้องเรียนจาก นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่ขอให้ดำเนินการตรวจสอบคลิปเสียงสนทนาระหว่าง นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กับนางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียกรับเงิน 15 ล้านบาท เพื่อไปใช้ในการเลือกตั้ง
โดยนายสมชัย กล่าวว่า คลิปเสียงของนายเสกสกล เป็นข่าวที่มีความน่าสนใจ เป็นที่รับรู้ของประชาชนทั่วไป ส่วนตัวอาศัยประสบการณ์ที่เคยทำหน้าที่เป็น กกต. และติดตามเรื่องพฤติกรรมต่างๆ ในการเลือกตั้งในอดีตของนักการเมือง เห็นว่าสิ่งที่ปรากฏในคลิปน่าจะเข้าข่ายความผิดทั้งการทุจริตการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. รวมถึงความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดเรื่องจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง
ในแง่ของการซื้อเสียง และการแจ้งรายการค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งที่เป็นเท็จรวมถึงใช้ตำแหน่งหน้าที่ข้าราชการการเมืองเอื้อประโยชน์ต่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ ซึ่งมีทั้งโทษทางอาญา และการตัดสิทธิ์การเลือกตั้ง วันนี้จึงได้นำคลิปการสนทนา พร้อมถอดเทปแบบคำต่อคำมามอบให้ รวมถึงบันทึกข้อสังเกตเรื่องแนวทางเรื่องกฎหมาย รวมถึงบทลงโทษ ทั้งนี้ การยื่นหนังสือต่อ กมธ.ป.ป.ช. เป็นช่องทางหนึ่งตามกฎหมายที่สามารถทำได้ และยังสามารถไปยื่นที่สำนักงาน ป.ป.ช. หรือ กกต. ได้
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวว่า นายเสกสกล ยอมรับว่า เป็นเสียงของตัวเอง พูดเรื่องเงิน 15 ล้านบาท และโควตาลอตเตอรี่ จากนี้ต้องไปดูว่าการเลือกตั้ง 2562 ที่ผ่านมา นายเสกสกล ใช้เงินเกินกว่าที่กฎหมายเลือกตั้งกำหนดหรือไม่ ซึ่งกำหนดให้ผู้สมัครเขตใช้คนละไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ส่วนพรรคการเมือง 35 ล้านบาท และกกต. ต้องนำเรื่องมาดำเนินการ ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลแค่ไหน เพราะ กกต. เอื่อยเฉื่อย ส่วนอีกประเด็นที่ต้องสอบ คือ นายเสกสกล เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของตนเองและผู้อื่นหรือไม่ ซึ่งมีความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 และยังเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ด้วย
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ จะรับเรื่องนี้ไว้แล้วรีบดำเนินการ โดยจะขอมติที่ประชุมวันนี้ และบรรจุเรื่องนี้เป็นวาระในช่วงปลายเดือน พร้อมเร่งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่คงไม่เชิญ กกต. แค่ขอเอกสารที่นายเสกสกล รายงานทรัพย์สินหลังการเลือกตั้ง และนายเสกสกล ต้องชี้แจง กมธ. เพราะตนมีอำนาจเรียก ส่วนคดีนี้ง่ายกว่าคดีนาฬิกายืมเพื่อนหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวว่า ง่ายมากๆ นาฬิกายืมเพื่อนต้องหาหลักฐานเยอะ ต้องไปดูถึงต่างประเทศ ไปดูว่าใครสั่งเข้ามา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews