“รสนา” ลุยหาเสียงสวนหลวง พูดคุยแนะนำตัวกับประชาชน พร้อมชูนโยบายเกี่ยวกับการกำจัดขยะ
บรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงของ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 7 ที่สวนหลวง ร.9 ถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 เขตประเวศ ได้พูดคุยและแนะนำตัวกับพี่น้องประชาชนที่มาออกกำลังกายและเดินพูดคุยทำความเข้าใจกับแต่ละกลุ่มที่มาทำกิจกรรม พร้อมชูนโยบายเกี่ยวกับการกำจัดขยะ เพื่อนำงบประมาณส่วนเกินมาเป็นสวัสดิการให้กับประชาชน
โดยน.ส.รสนา กล่าวถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับกทม.ว่า เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะตนคิดว่ากทม.จะต้องพยายามผลักดันให้มีพื้นที่สีเขียวอย่างน้อยตามมาตรฐานของโลก ประมาณ 9 ตารางเมตรต่อ 1 คน แต่ตอนนี้ประเทศไทยมีพื้นที่สีเขียวประมาณ 6 ตารางเมตรต่อ 1 คน ดังนั้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก โดยคิดว่าสามารถที่จะหาพื้นที่ที่เป็นที่ว่างในชุมชนทำเป็นสวนขนาดเล็กขึ้นมา โดยทำตามนโยบายในการกระจายงบประมาณเขตละ 50 ล้าน ทั้ง 50 เขต เพื่อที่จะให้ประชาชนริเริ่มที่จะทำโครงการต่างๆในเขตนั้นๆ ร่วมกับผู้อำนวยการเขต รวมทั้งคิดว่าประชาชนที่มีที่ดินแต่ไม่ได้ใช้งานก็สามารถมาร่วมกับ กทม. เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันและช่วยในการลดภาษีได้ โดยอาจจะทำเป็นสวนสาธารณะร่วมกับการทำเกษตรควบคู่ไปด้วย
สำหรับวันปราศรัยของตนนั้น ตนกำลังเลือกพื้นที่ของทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ที่จะให้ตนไปปราศรัย ซึ่งช่วงนี้ส่วนใหญ่เป็นการดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ตามสื่อต่างๆ
นอกจากนี้น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 7 ยังได้กล่าวถึง กลยุทธ์ในการหาเสียงหลังจากนี้ ว่า ตนจะลงไปในพื้นที่ๆมีปัญหา เช่น พื้นที่ๆได้รับผลกระทบจากโรงขยะผลิตไฟฟ้า ซึ่งตนมองว่าสิทธิขั้นพื้นฐานเรื่องอากาศสะอาดของประชาชนเป็นเรื่องอันดับ 1 หากตนมีอำนาจตนจะสั่งให้แก้ปัญหา แต่ถ้าทำไม่ได้ให้ย้ายออกทันที อีกทั้งโรงขยะอื่นๆอีก 10 แห่งที่จะเกิดขึ้นใหม่ เป็นเรื่องที่ต้องทบทวน การกำจัดขยะเป็นเรื่องที่จำเป็น แต่ต้องทำอย่างมีมาตราฐานและคุณภาพไม่ก่อให้เกิดปัญหากับประชาชน
ส่วนเรื่องป้ายหาเสียงของตนเองนั้น ยังไม่มีใครร้องเรียนเข้ามา เนื่องจากตนติดป้ายน้อย และให้ความสำคัญเกี่ยวกับการติดป้ายที่จะไม่ไปรบกวนการสัญจร และทัศนวิสัยการขับรถ ซึ่งคนที่ให้ไปติดป้ายส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครที่รู้จักกันไม่ได้เป็นการจ้างทั่วไป เพราะฉะนั้นก็จะมีการระมัดระวังเรื่องการติดป้ายอยู่แล้ว
พร้อมกันนี้ น.ส.รสนา กล่าวถึงกรณีนักการเมืองชื่อดังกระทำการอนาจารเด็ก 18 ปี ว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการ กระทำดังกล่าวอยู่แล้ว ซึ่งตนมองเป็นเด็นดังกล่าวกับความปลอดภัยสำหรับพื้นที่กทม. ที่ตนความสำคัญมาก เช่น การรับบุคคลที่เคยมีคดีข่มขืนมาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก กทม.จะต้องเข้าไปตรวจสอบในเรื่องนี้ อีกทั้งจะต้องติดกล้อง CCTV ให้ทั่วกทม. รวมไปถึงให้ความสำคัญในพื้นที่ที่ขาดแสงสว่าง ซึ่งตนจะเปิดพื้นที่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อที่จะแจ้งจุดที่อันตรายมายังผู้อำนวยการเขตนั้นๆ เพื่อนำงบประมาณเข้าไปแก้ไขในพื้นที่ตรงนั้น แต่ถ้ามีระเบียบอะไรที่ยังติดขัดก็ต้องแก้ไขระเบียบเหล่านั้น เพื่อให้การแก้ปัญหาให้กับประชาชนเป็นไปได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews