อธิบดีกรมสรรพามิต แถลงจับบุหรี่เถื่อนลอตใหญ่ 201,200 ซอง มูลค่าของกลาง 16 ล้านบาท คิดเป็นค่าปรับ 169 ล้านบาท – เล็งปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพามิต แถลงผลการจับกุมบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ในพื้นที่ อ.หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า การจับกุมครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากกรมสรรสามิตได้รับแจ้งเบาะแสผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต ผ่านสายด่วน 1713 ผู้แจ้งให้ข้อมูลว่ามีผู้ใช้ Line เพื่อจำหน่ายบุหรี่หนีภาษี โดยใช้ไอดีไลน์ “@Jackkee” ซึ่งบุหรี่ดังกล่าวมีการลับลอบนำเข้ามาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้วางแผนทลายสถานที่เก็บบุหรี่ และจับกุมผู้กระทำผิดจำนวน 2 จุด โดยตรวจค้นพบบุหรี่ที่ยังมิได้เสียภาษีจำนวนทั้งสิ้น 201,200 ซอง จำนวนมูลค่าของกลาง 16,096,000 บาท สร้างความเสียหายให้แก่รัฐ 11,267,200 บาท และคิดเป็นค่าปรับจำนวน 169,008,000 บาท
สำหรับผลการปราบปรามในปีงบประมาณ พ.ศ.2564 รอบ 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 – 28 มกราคม 2564 พบมีการกระทำผิด จำนวน 9,595 คดี คิดเป็นค่าปรับ 177.19 ล้านบาท โดยสินค้าผิดกฎหมายที่จับกุมได้สูงสุด 3 อันดับแรก ไดแก่ สุรา จำนวน 5,438 คดี ค่าปรับ 49.67 ล้านบาท ยาสูบ จำนวน 2,858 คดี ค่าปรับ 67.01 ล้านบาท ไพ่ จำนวน 222 คดี ค่าปรับ 2.75 ล้านบาท
ทั้งนี้นายลวรณ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกรมฯ อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างภาษียาสูบใหม่ หลังพบการลักลอบขนบุหรี่ผิดกฎหมายเข้ามาจำหน่ายในไทยจำนวนมาก เนื่องจากส่วนต่างด้านราคาที่จูงใจให้เกิดการกระทำผิดกฎหมาย โดยโครงสร้างภาษียาสูบใหม่จะต้องพิจารณาใน 4 ประเด็นหลัก ทั้งการดูแลเกษตรกร การดูแลสุขภาพ การลดแรงจูงใจลักลอบขนสินค้าเถื่อน และการจัดเก็บรายได้ของกรมฯ ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนมีนาคมนี้ หลังจากนั้นจะเสนอขอความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง และจะเริ่มใช้โครงสร้างภาษียาสูบใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ทั้งนี้ ในแต่ละปี กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้จากภาษียาสูบประมาณปีละ 60,000 ล้านบาท
สำหรับการจัดเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2563 พบว่า กรมสรรพสามิตมีรายได้ 145,591 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขในเอกสารงบประมาณร้อยละ 2.5 หรือประมาณ 3,777 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงปีที่ผ่านมาได้เกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจไทยติดลบ ในขณะที่เป้าหมายในเอกสารงบประมาณได้ประเมินไว้ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ 4-5
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news