Home
|
ภูมิภาค

ชลประทาน12ผยสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา

Featured Image
สำนักงานชลประทานที่ 12 เผยสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ขอใช้น้ำอย่างประหยัด ฝากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้อดทนเข้าหน้าฝน

นายกฤษฎา ศรีเพิ่มพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 เปิดเผยว่า ในปัจจุบันฤดูแล้งปีนี้ เมื่อสิ้นฤดูฝนเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมาก็มีปริมาณน้ำน้อย ใกล้เคียงกับเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา จากสถิติจะเห็นได้ว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของประเทศ เมื่อปี 2563 มีเพียง 5,771 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็มากกว่าจากเมื่อปี 2562 ซึ่งมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 5,377 ล้านลูกบาศก์เมตร จะเห็นได้ว่า ปริมาณน้ำ ปี 2562 และปี 2563 มีปริมาณใกล้เคียงกัน ซึ่งทางกรมชลประทานได้มีการวางแผนจัดสรรน้ำ ในช่วงฤดูแล้ว ปี 2563/64 โดยแบ่งการบริหารจัดการน้ำเป็น 2 ช่วง เพื่อใช้ในด้านการอุปโภค บริโภค รักษาระบบนิเวศ และจะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำของ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา ขณะนี้มีน้ำใช้การรวมกันเพียง 4,425 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน ได้มีการส่งน้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา โดยปริมาณน้ำที่ส่งมาถึง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 164 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยมีการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ที่ 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีการระบายน้ำเข้าสู้ระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันตก และตะวันออก ของแม่น้ำเจ้าพระยารวมกันอยู่ที่ 45 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อใช้ในเรื่องของการผลิตน้ำประปา และรักษาระบบนิเวศ

สำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยแล้งในปีนี้ ทางสำนักงานชลประทานที่ 12 โดยกรมชลประทาน ได้มีการรับมือ ติดตามสถานการณ์น้ำมาอย่างตลอด เพื่อบริหารจัดการน้ำให้กับประชาชนผู้ใช้น้ำ ซึ่งทาง สำนักงานชลประทานที่ 12 ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกร รวมไปถึงผู้ใช้น้ำต่างๆ ได้รับรู้รับทราบท้ายที่สุดฝากถึงประชาชน รวมไปถึงเกษตรกรผู้ใช้น้ำ ขณะนี้ได้ผ่านฤดูแล้งมาได้ครึ่งทางแล้ว ประมาณ3 เดือน ก็ฝากให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้อดทนรออีก 2-3 เดือน ให้เข้าฤดูฝนปกติเราถึงจะได้ทำนาได้อย่างปกติซึ่งจากการคาดการของกรมอุตุนิยมวิทยาก็คาดว่าปีนี้ฝนจะไม่เกิดการทิ้งช่วงจะมาตามปกติอย่างไรก็ตามก็ยังต้องขอความร่วมมือกับประชาชน และเกษตรกรผู้ใช้น้ำ ในช่วงนี้ก็ขอให้ใช้น้ำกันอย่างประหยัดไปก่อน

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube