Home
|
ข่าว

“ชัชชาติ” หาเสียงย่านอโศก ยก มศว.เป็นตัวอย่างที่ดี

Featured Image
“ชัชชาติ” หาเสียงย่านอโศก ยก มศว.เป็นตัวอย่างที่ดี แบ่งปันพื้นที่ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ แนะ แก้รถไฟฟ้าสีเขียว เจรจามากกว่าการหาทางออกอย่างอื่น

 

 

บรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร วันนี้มีการลงพื้นที่หาเสียงย่านอโศกโดยเริ่มจากตลาดภายในมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒหรือ มศว. ตากนั้นลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดรวมทรัพย์ อโศกมนตรี

 

นายชัชชาติ กล่าวระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงถึงนโยบายที่จะแก้ไขพื้นที่อโศก ว่า มศว.ตนเองมาบ่อย มศว.เป็นตัวอย่างที่ดีของการแบ่งปันพื้นที่ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ได้ เช่น พื้นที่บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยที่เป็นลานกว้างซึ่งเปิดให้เป็นตลาดนัดในวันอังคารและพฤหัสบดี ซึ่งจากการที่ตนถามพ่อค้า แม่ค้า พบว่าพื้นที่เช่าขายของราคาไม่แพง

 

ซึ่งเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจยามที่พ่อค้า แม่ค้า ลำบากหาพื้นที่ขายของ หากมีพื้นที่ที่เป็นของราชการ เอกชน หรือของรัฐให้ชาวบ้านมีที่ขายของได้ในราคาที่ไม่แพงก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งฝ่ายผู้ซื้อ และผู้ขาย ซึ่งนี่เป็นนโยบายหนึ่งที่กทม.ต้องพยายามจัดหาพื้นที่ส่วนนี้ที่จะเป็นตัวกลางติดต่อประสานให้เกิดตลาดนัดได้หรือไม่ เพื่อเป็นการลดภาระจะทำให้ลดค่าใช้จ่ายสำหรับพ่อค้า แม่ค้า

 

นอกจากนี้พื้นที่มศว. มีพื้นที่สีเขียวที่มีสนามกีฬาและลู่วิ่ง ในเวลาปกติมีการเปิดให้ประชาชนเข้ามาใช้งาน ซึ่งน่าสนใจเพราะพื้นที่สีเขียว หรือพื้นที่สาธารณะหลายที่ของหน่วยราชการจะปิดวันเสาร์-อาทิตย์ ประชาชนไม่สามารถเข้าไปใช้งานได้ โดยอนาคต กทม.ควรต้องหาพื้นที่เหล่านี้ติดต่อกับหน่วยงานราชการและเปลี่ยนเพื่อให้ประชาชนเข้าไปใช้งานได้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวพื้นที่สาธารณะที่มีคุณภาพในเมือง ซึ่ง มศว.เป็นพื้นที่ที่ดี

 

โดยนายชัชชาติ ระบุว่า การเชื่อมโยงก็สำคัญซึ่งมศว.เป็นตัวอย่างที่ดี คือ ด้านหลังติดกับคลองแสนแสบ ซึ่งรูปแบบของ กทม.ต้องดูแลการเชื่อมโยงของหลายรูปแบบ เช่น ท่าเรือ ทางเดิน แสงสว่าง การเชื่อมโยงตรงนี้จะทำให้การเดินทางของประชาชนในกรุงเทพฯสะดวกขึ้น ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการเชื่อมโยงพื้นที่พวกนี้ด้วยการเดินเรือ เช่น คลองลาดพร้าวเพิ่มได้หรือไม่ ตนมองว่าน่าสนใจเนื่องจากตัดรถไฟฟ้าหลายเส้น ซึ่งจากการลงพื้นที่หลายที่

 

เช่น พื้นที่มีนบุรีประชาชนบ่นว่าทางเดินดี แต่ไม่มีแสงไฟซึ่งการเดินเหล่านี้จะเป็นการเชื่อมโยงพื้นที่สาธารณะ เชื่อมโยงการเข้าออกทำให้คนเดินทางสะดวกขึ้น เพราะฉะนั้นกทม.มีหน้าที่ดูแลเรื่องเหล่านี้ ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่และไม่ใช่การลงทุนเยอะ แต่เป็นการเติมเต็มเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงได้

 

ส่วนเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ นายชัชชาติ ระบุว่าจะมีการใช้การเจรจามากกว่าการหาทางออกอย่างอื่น นายชัชชาติ ระบุว่า ตามสัญญาเอกชนมีสัมปทานถึงปี 2572 ซึ่งเป็นสิทธิ์ของเขาในการคำนวนราคาค่าโดยสาร ซึ่งหลังปี 2572 หากหมดสัญญาทุกอย่างจะเป็นของกทม. แต่กทม.มีสัญญาจ้างเดินรถถึงปี 2585 ซึ่งเราไม่เห็นสัญญาจ้างเดินรถเราไม่เห็นว่ามีค่าจ้างเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นการเก็บค่าจ้างจึงต้องมีการเจรจากัน

 

ซึ่งเมื่อถึงปี 2572 ทำยังไงให้ประโยชน์กลับคืนมาที่ประชาชนสูงสุด ซึ่งจะต้องชนเพราะเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในเงื่อนไขของกฎหมาย

 

ด้านพื้นที่อโศกไม่มีพื้นที่สำหรับรับเลี้ยงเด็กเล็กจะมีการคุยส่วนราชการหรือไม่นั้น นายชัชชาติ ระบุว่า ศูนย์เด็กเล็กมีความสำคัญมากตั้งแต่ 3 เดือน – 6 ปี ซึ่งการดูแลยังให้งบประมาณต่ำ ในขั้นต้นจึงต้องหาแรงจูงใจหรือพูดคุยกัน และตนมองว่าการลงทุนกับเด็กเล็กเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube