ได้ภาพมายังไง?
เต๋า : “แหล่งข่าวส่งมาให้ค่ะ ก่อนหน้านี้มีภาพหลุดมาก่อนเซ็ตนึงแล้ว ที่เป็นเซ็ตรวมผู้ประกาศข่าวด้วย มีอยู่คนสองคน ที่แหล่งข่าวคนเดิมส่งมาให้อีก ตอนไม่เบลอหน้า ไปตรงกับคนที่อยู่ในเวอร์ชั่นใส่เสื้อผ้าปกติ เราเช็กแล้ว เขายืนยันว่าน่าจะเป็นวันเดียวกับโรงแรมดัง คนได้รูปมาเขายืนยัน ล่าสุดเมื่อเช้าเมื่อวาน มีแหล่งข่าวเชื่อถือได้เป็นนักข่าวอาวุโส บอกว่าหนึ่งในคนที่อยู่ในปาร์ตี้ คนที่ถือกล้องเขารู้จัก คนนี้เพิ่งไปตรวจโควิดมาเมื่อวาน มันก็ตรงกันน่ะสิ แล้วถ้าใครบอกว่ามันไม่ตรงกัน คนละงานกัน ช่วยกรุณาเอาภาพจริงวันนั้นมาออกหน่อย ใครที่บอกว่าเป็นปาร์ตี้เก่า เอามายืนยันกันหน่อย เราจะได้ช่วยรัฐบาลสืบหาด้วยว่าเป็นปาร์ตี้ลักษณะแบบไหน”
เต๋ามีเจตนาอะไรในการนำภาพมาโพสต์?
เต๋า : “อย่าลืมว่าตอนนี้อยู่ในช่วงโรคระบาด บางจังหวัดยังเป็นสีแดงอยู่ ฉะนั้นเมื่อเราไปพื้นที่สีแดงเขาห้าม เขาก็ไม่ได้ห้ามร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ให้ใช้วิจารณญาณว่าเราควรไปชุมนุมกันมากน้อยขนาดไหน แล้วการชุมนุมก็มีระยะเวลา เราต้องเป็นหูเป็นตาให้รัฐบาล ถ้าเราเพิกเฉยต่อไป โรคนี้ก็ไม่หมดไปจากประเทศเราสักที ถ้าคนในงานติดคนเดียว มันอาจแพร่ไปทั้งงานก็ได้ แล้วมันจะไปทั่วเลย”
แม้มีพ.ร.ก. ก็ยังมีการจัดงานต่างๆ ทั้งในวงการและวงการอื่นๆ?
เต๋า : “มีอยู่ค่ะ วงการบันเทิง พูดง่ายๆ เวลาชาวบ้านกินหมูกระทะกันหลายคน คนก็ด่าสาปเขา ชาวบ้านนั่งกินข้าวด้วยกันก็ด่าสาปเขา แต่พอเป็นดาราให้กำลังใจ สู้ๆ สองมาตรฐาน คนเราเป็นดาราต้องเป็นตัวอย่างให้ประชาชน ก็ต้องทำสิ่งที่ดี ไม่ใช่ไปมั่วกันอย่างนี้”
คนเข้ามาให้กำลังใจสู้ๆ เป็นดารากันเอง?
เต๋า : “ดารากันเองหมด แล้วก็พวกเอฟซี ให้กำลังใจให้สู้นะ โควิดไม่ตายนะ ใครจะติดช่างมัน แต่แกต้องสู้นะ”
คิดว่าจะมีอะไรมาแฉอีก?
เต๋า : “มีอีก ระดับพระเอกเลย โกหกไทม์ไลน์ตั้งแต่แรก ทั้งผู้จัดการ ตัวเด็กเอง โกหกหมดเลย ตอนนี้ไม่ต้องสืบ รู้หมดแล้ว แต่บางคนบอกว่าขอได้มั้ยอย่าพูด”
ถ้าขอให้ใบ้ว่าเป็นใคร?
เต๋า : “พระเอกหล่อมากเป็นพระเอกเด็ก อยู่ในปาร์ตี้ด้วย นักข่าวโทรไปเขาบอกไม่ได้ไป แต่เรามีภาพว่าเขาไป พระเอกหน้าตาดี หล่อ ตาตี๋ๆ น่ารัก คิ้วท์ ชื่อเหมือนขนม”
โฟนอินสัมภาษณ์ “นุ๊ก สุทธิดา” ป่วยเป็นโรคมะเร็ง รักษาอาการดีขึ้น ทุกคนวางใจ ล่าสุดนุ๊กบอกว่าค่ามะเร็งในตัวค่อนข้างสูง สูงกว่าปกติเท่าตัว ชนิดรุนแรง กระจายเร็วกว่าชนิดอื่นๆ ที่ต้องรักษาไปเรื่อยๆ การรักษามะเร็งไทรอยด์ก็มีเอฟเฟ็กต์ ผมร่วง ผิวแห้ง ผอมลง นุ๊กค่อนข้างเครียด?
นุ๊ก : “มันไม่ได้อาการทรุด แต่ผลเลือดค่ามะเร็งมันสูง ต้องปรับยา พอปรับยาเสร็จเอฟเฟ็กต์ก็เกิดบ้าง เช่นผมร่วง ผิวกร้าน เดี๋ยวก.พ. ต้องไปตรวจอีกที ถ้าค่ามะเร็งสูงก็ต้องกลืนแร่อีกรอบค่ะ”
กลืนแร่เป็นยังไงบ้าง?
นุ๊ก : “มันทำให้เราทรมานมากกว่าค่ะ คล้ายๆ การให้คีโม กับการรักษาโควิด เป็นการผสมผสานที่ลงตัวมาก กักตัวอยู่คนเดียว ด้วยความที่พอให้ยา ร่างกายเราก็กระอักกระอ่วน ทุกอย่างก็อยากออกหมดเลย เราต้องดูแลตัวเองอยู่คนเดียวเหมือนโควิด”
กลืนแร่ให้รังสีในแร่ไปรักษา?
นุ๊ก : “ไปฆ่าเซลส์มะเร็ง แต่ก็ทำให้เซลส์อื่นๆ อ่อนแอไปด้วย”
กลืนแร่ต้องทำกี่ครั้ง เก็บตัวกี่วัน?
นุ๊ก : “คือชีวิตคนเราสามารถกลืนได้แค่ 6 ครั้ง แม็กซิมัมค่ะ ไม่งั้นเราจะทนพิษบาดแผลไม่ไหว(หัวเราะ) แต่ของนุ๊กเพิ่งกลืนไปแค่ครั้งเดียว แต่นุ๊กว่าคุณหมอคงไม่ได้พูดไปถึงข้างหน้า เพราะเขาก็คงกลัวคนไข้จะกังวลด้วย เพราะพอกลืนปุ๊บ คุณหมอจะไม่บอกผลอื่นๆ เลย พอใกล้ๆ ครบรอบเช็กอีกรอบ ก็เริ่มได้คุยกันแล้วว่าค่ามะเร็งยังไม่ลง ต้องกลืนอีกรอบ”
มีอาการอะไรเยอะขึ้นมั้ย?
นุ๊ก : “ไม่มีค่ะ แต่ที่เปลี่ยนไปจริงๆ คือถ้านอนน้อยจะรู้สึกว่ามีผลกระทบกับร่างกาย เบลอ ไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อน ต้องนอนให้ครบ 8 ชม.ทุกวัน นอกนั้นอาการอื่นๆ ไม่มี ที่เหลือเป็นเรื่องจิตใจ ว่าเราจะดูแลจิตใจยังไง เราคิดยังไงกับการที่เราไม่สบาย ถ้าเราไม่ได้คิดอะไร ไม่ซีเรียส เข้าใจธรรมชาติ เราก็อยู่แบบสบายๆ ค่ะ”
วางแผนสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองยังไง?
นุ๊ก : “อาจโชคดีที่เราผ่านเรื่องร้ายๆ มาเยอะ โดยเฉพาะเราเคยผ่านเรื่องโรคซึมเศร้า ทำให้รู้ว่าชีวิตเราอะไรคือความหมายของการมีชีวิตอยู่ เราก็คิดแต่เรื่องความหมาย ไม่ได้คิดเรื่องผลลัพธ์ของการมีชีวิตอยู่ เราเลยไม่รู้สึกว่าการมีชีวิตอยู่ยาวนานจะมีคุณค่าอะไรมากไปกว่าการที่เราอยู่เพื่อใคร หรือทำอะไรเพื่อใครในแต่ละวัน เราเข้าใจด้วยแหละค่ะว่าเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมชาติ ก็ทำใจง่าย ไม่ได้คิดอะไรมาก บวกกับเรามีลูก ลูกมีเรื่องราวให้เราทำโน่นทำนี่ทุกวัน เลยไม่ได้คิดว่าเราจะต้องตาย หรือทำไมเป็นเรา ไม่เคยคิดอย่างนั้น”