นายกรัฐมนตรี ห่วงเปิดเรียน กำชับ ศธ. ดูแลอย่าให้แออัด ต้องยึดมาตรการสาธารณสุขเพื่อความปลอดภัย รอชัดเจนมาตรการคืนค่าเทอม
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยต่อการเปิดภาคเรียน ของนักเรียน นักศึกษา ซึ่งในการประชุม ศบค. ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีก็ได้มีกำชับ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดูในเรื่องของการจำกัดจำนวนนักเรียนที่จะเข้าเรียนในแต่ละคาบเรียนโดยจะต้องดูตามมาตรการของ ศบค. ในเรื่องของการดูแลสุขลักษณะต่างๆ ระหว่างที่นักเรียนอยู่ที่โรงเรียน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้มากที่สุด ส่วนในเรื่องอื่นๆ ทางนายกรัฐมนตรียังไม่ได้มีการพูดถึงแต่อย่างใด โดยจะต้องพิจารณามาตรการตามสถานการณ์ต่อไป
ทั้งนี้นายอนุชา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการยังมีการเสนอคืนค่าเทอมบางส่วนในช่วงที่มีการเรียนออนไลน์ แต่ยังไม่ได้มีการออกมาตรการที่ชัดเจนว่าจะมีการคืนเท่าไหร่ หรือกี่เปอร์เซนต์
ขณะที่ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันเปิดเรียนวันแรก ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังหลายพันนาย ดูแลการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็นเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงที่มักจะเกิดปัญหา เบื้องต้นได้เน้นย้ำในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นพิเศษ ส่วนปัญหารถติดในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 จะเท่ากับช่วงปกติหรือไม่นั้น คงต้องประเมินภาพรวมจากวันแรก คือในวันนี้ เนื่องจากปัจจุบัน พบว่ายังคงมีบางสถานศึกษาและบางสถานประกอบกิจการ ให้นักเรียนเรียนออนไลน์ที่บ้าน รวมถึงให้พนักงานทำงานที่บ้าน (Work from home) จึงอาจมีบางส่วนที่ยังไม่ต้องเดินทาง ซึ่งก็อาจจะทำให้ปริมาณรถบนท้องถนนแตกต่างจากช่วงปกติ
แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะไม่ประมาท และจะระดมกำลังกันอย่างเต็มที่ โดยจะมีการนำข้อมูลการจราจรในวันแรกมาปรับเป็นแผนเพื่อใช้ในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรสำหรับช่วงเวลาเปิดภาคเรียนตลอดทั้งเทอมต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
Website : https://www.innnews.co.th/