รองโฆษก ตร.เตือนสารพัดกลโกงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่คนไทยต้องรู้ทัน…ไม่เชื่อ…ไม่คุย…ไม่โอน
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนให้ทราบถึงกลโกงและวิธีการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อที่ประชาชนจะไม่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าแผนประทุษกรรมในการหลอกลวงของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีประมาณ 8 รูปแบบ คือ มีทั้งอ้างว่ามีพัสดุจากบริษัทขนส่งพัสดุข้ามประเทศ เช่น DHL หรือ FedEx และถูกด่านของกรมศุลกากรอายัดไว้และมีสิ่งของผิดกฎหมาย
จากนั้นจะให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ปลอม) เพื่อทำการตรวจสอบบัญชีหรือให้โอนเงินในบัญชีธนาคารทั้งหมดมาตรวจสอบ, อ้างเป็นข้าราชการ เช่น ศาล อัยการ ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) กรมสรรพากร หรือ กรมสรรพสามิต เป็นต้น จากนั้นจะอ้างว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมร้ายแรง (เช่น ยาเสพติด ค้ามนุษย์ หรือ ฟอกเงิน) และให้โอนเงินในบัญชีธนาคารทั้งหมดมาตรวจสอบ
ตลอดจนอ้างว่าผู้เสียหายค้างค่าปรับจราจร หลอกให้โอนเงินค่าปรับจราจร หรือให้โอนเงินในบัญชีธนาคารทั้งหมดมาตรวจสอบ,อ้างว่าผู้เสียหายค้างชำระค่าบัตรเครดิตเป็นจำนวนมาก หากไม่รีบชำระจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดี เพื่อหลอกให้โอนเงินชำระค่าบัตรเครดิตให้กับคนร้ายทันที, อ้างว่าผู้เสียหายเปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) ให้คนร้ายใช้ในการกระทำความผิด และให้โอนเงินในบัญชีธนาคารทั้งหมดมาตรวจสอบ,อ้างว่าผู้เสียหายมีการเคลมประกันโควิด 19 เป็นเท็จและมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมร้ายแรง และให้โอนเงินในบัญชีธนาคารทั้งหมดมาตรวจสอบ, อ้างเป็น กสทช. หลอกลวงหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ ค้างค่าชำระ หรือมีผู้ร้องเรียนเป็นจำนวนมาก จะถูกปิดเบอร์ภายใน 2 ชั่วโมง
อีกทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมจากนั้นจะติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปลอมและให้โอนเงินในบัญชีธนาคารทั้งหมดมาตรวจสอบ และอ้างเป็น เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หรือหน่วยงานทางการแพทย์ หลอกขอข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วย หรือหลอกให้โอนเงินค่ารักษาพยาบาลให้กับคนร้าย
ทั้งนี้ เทคโนโลยีที่คนร้ายมักจะนำมาใช้ในการสร้างความน่าเชื่อถือในการหลอกลวงประชาชน คือ การใช้เสียงตอบรับอัตโนมัติ ทำให้ดูเหมือนว่าเป็นคอลเซ็นเตอร์จริง ๆ ไม่ใช่แก๊งมิจฉาชีพ, การส่งภาพของหนังสือราชการ หมายเรียก หมายจับ หรือเอกสารอ้างต่าง ๆ ที่ปลอมขึ้น ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ,การส่งภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ หรือภาพของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เหยื่อเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริง, การตัดต่อคลิปเจ้าหน้าที่รัฐ หรือการใช้เทคโนโลยี Deepfake ในการปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อวีดิโอคอลกับเหยื่อ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และการสร้างเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันปลอม เป็นแพลตฟอร์มในการหลอกลวง เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากไปยังประชาชนขอให้ติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อที่จะได้รู้เท่าทันกลโกงของคนร้าย และอย่าหลงเชื่อ อย่าคุยต่อ และอย่าโอนเงินให้กับ กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ที่ติดต่อมาทางโทรศัพท์ หรือข้อความผ่านแอปพลิเคชันแชทต่าง ๆ เด็ดขาด และหากประชาชน พบเห็นหมายเลขโทรศัพท์ใดที่มีพฤติกรรมดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเบอร์โทร และ SMS มิจฉาชีพ 1185 (AIS), 9777 (TRUE), 1678 (DTAC) และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews