น้องลง-พี่ขึ้น
@แม้จะออกตัวว่าเป็น “นายกฯรักษาการ” ระหว่าง “นายกฯลุงตู่” โกอินเตอร์ที่สหรัฐฯ แค่ 12-13 พ.ค.ผ่าน FB แต่ทุกความเคลื่อนไหวของ “พี่ใหญ่” ที่เมืองไทยก็ยังน่าสนใจกว่า “น้องเล็ก” ที่อยู่สหรัฐฯ กับ “บทบาทนายกฯ” ที่คอการเมืองบางรายบอกว่าเหมือนเป็นการซ้อม แม้เจ้าตัวจะพยายามวางตัวไม่โฉ่งฉ่าง ถึงขนาด “นักข่าว” ถามถึง “นัดมีตติ้งดินเนอร์” ก่อนเปิดสภาฯสมัยสามัญ ที่สมัยที่แล้ว เคยบอกว่าจะทำเป็น “ประเพณีพรรคร่วมรัฐบาล” โดยเป็นคิวเจ้าภาพของ “หัวหน้าหนู” แห่ง ภูมิใจไทย ที่เลื่อนออกมาจากเดือนเม.ย.“พี่ใหญ่” ก็เลี่ยงที่จะตอบแม้จะมีสถานะที่ตอบได้ในฐานะ “หัวหน้าพรรคพปชร.” พรรคหลักรัฐบาล (11 พ.ค.) เช่นเดียวกับวันนี้ที่พอสื่อจับสังเกตการทำหน้าที่ “นายกฯรักษาการ” ที่ทำเนียบฯ “นายกฯป้อม” ก็เลือกที่จะทำงานอยู่ที่ “บ้านป่ารอยต่อ”
@ทั้งที่เอาเข้าจริงช่วง “นายกฯลุงตู่” ไม่อยู่ “นายกฯป้อม” เคลียร์คัตปัญหา “การเมือง” ให้ “น้องเล็ก” ไป 2 ปม กับทั้ง 1.กรณี “พิเชษฐ์ สถิรชวาล” ที่ไปร่วม “ดินเนอร์ล้มตู่” กับ “ฝ่ายค้าน” และ “ผู้กองนัส” ที่กำลังมีนัดกันครั้งที่ 3 วันที่ 23 พ.ค.หลังเปิดสภาฯ ที่ให้ พปชร.สอบโดยให้มาชี้แจงกรรมการวันที่ 17 พ.ค.แม้ “พิเชษฐ์” จะยืนยันว่าจะไม่ไปพรรค เพราะเป็นอาคารของเลขาพรรค“สันติ พร้อมพัฒน์”คู่กรณีที่ “พิเชษฐ์” แตะมือส่งข้อมูลให้ฝ่ายค้านตรวจสอบปมท่อส่งน้ำ EEC ที่อาจลามถึง “นายกฯลุงตู่” จนต้องมีการติดเบรกการเซ็นต์สัญญา และ 2.กรณี “โจ้ ยุทธพงศ์” จากพรรคเพื่อไทย ประกาศว่า “ผู้กองนัส” รับปากมาร่วมวงดินเนอร์ครั้งที่ 3 ที่ “หัวหน้าป้อม” ยืนยันว่า “ผู้กองนัส” จะไม่ไป ที่ยังไม่มีสัญญานจาก “ผู้กองนัส” ว่าถึงเวลาจะไปหรือไม่ไป ทั้งที่ก่อนหน้าเป็นที่ทราบว่ามีการนัดกินข้าวกับฝ่ายค้านพรรคเล็กเป็นปกติตามประสา “มือดีล” ผู้กว้างขวางในยุทธจักร ที่ทั้ง2กรณีเหมือนเป็นการแสดงอาการปรามในทีของ “บิ๊กป้อม” กับ “น้องเลิฟ” และ แกนนำพรรคเล็กอย่าง “พิเชษฐ์” ที่เคยบอกชัดว่าโอเคแค่กับ “ผู้กองนัส” และ “บิ๊กป้อม” จนถูก “โจ้ เพื่อไทย” ทักว่าระวังเข้าข่าย “ครอบงำพรรค”
@ไม่แต่เท่านั้น “พี่ใหญ่” ยังพยายามส่งสัญญานว่า ยังคงเทคแคร์ดูแล “น้องเล็ก” และจะทำตามที่รับปากร่วมกันกับวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลครั้งก่อน คือทุกฝ่ายช่วยประคอง “น้องเล็ก” ไปจนถึงประชุมเอเปคตามวาระ ตามตั้งใจอย่างที่ประกาศ ระหว่างทางไม่มียุบสภา ลาออก แต่หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที เพราะจะมีการเลือกตั้ง ที่มีปัจจัยความไม่แน่นอนอยู่ที่ฝ่ายการเมือง ที่เตรียมตัวกันตั้งแต่หัววัน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยของ “พี่โทนี่” ที่ยืนยันคอนเซ็ปต์ “แลนด์สไลด์” ชนะเลือกตั้ง สามารถตั้งรัฐบาลโดยไม่ติดกับดัก “รัฐธรรมนูญ 60” ที่ยังมี “พรรคสว.250” เหลือวาระอีก 1 ปี เป็นตัวแปรที่จะดัน “ขั้วอำนาจ 3 ป.” จัดตั้งรัฐบาล ขึ้นเป็นนายกฯได้อีกรอบ
@ในขณะเดียวกัน นอกจากประคองไปจนครบวาระของ “น้องเล็ก” แล้ว ในทางหนึ่งของการ “เพลย์เซฟ” ตามปกติของ “ฝ่ายอำนาจ” ที่มาจาก “ขุนศึก” มักวางทางหนีทีไล่ไว้ในการ “ลงจากหลังเสือ”ทั้งระยะใกล้และไกล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการ “เช็คบิล” จาก “อำนาจใหม่” ที่เคยถูกโค่นล้ม จึงไม่แปลกที่ทิศทางตามข้อเสนอผ่าน “อดุลย์ เขียวบริบูรณ์”แกนนำญาติวีรชนพ.ค.ทมิฬ 35 ปมชู “ลุงป้อม”เป็น “นายกฯขัดตาทัพ”คือ “พี่ใหญ่” พร้อมเป็น “คนระวังหลัง” ให้น้อง ที่ตามมาด้วย “สัญญาน” จาก “บิ๊กน้อย” และ “ผู้กองนัส” ถึงแนวทาง ม.272 วรรค 2 ก่อนหน้านี้ อันมาหลังจากข่าว “บิ๊กดีลลอนดอน” จะถูก “มัดรวม” จับตาจากหลายฝ่าย ว่า เป็นเรื่อง “จริงในเท็จ หรือ เท็จในจริง” กับทิศทางที่ “คนแดนไกล” ก็ส่งสัญญานถี่ อยากกลับบ้านพร้อมคุยทุกฝ่าย “คนใกล้” ก็อยากลงแบบสบายใจ “ไม่เจ็บตัว” ที่สำคัญ ในทุกความเคลื่อนไหวของ “มือดีล” ที่เป็น “น้องเลิฟ” ถูกเชื่อไปแล้วว่า “นายกฯป้อม” น่าจะทราบอยู่แล้วหรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews