Home
|
เศรษฐกิจ

“จุรินทร์”สั่งทูตพณ.เกาะติดยึดอำนาจพม่า

Featured Image
รองนายกฯ “จุรินทร์” สั่ง ทูตพาณิชย์ รายงานสถานการณ์ในเมียนมา วันต่อวัน ขณะ 3 ด่านยังเปิดปกติ ส่วน ปี63 การค้าชายแดนลบ 1.7%

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือ ทูตพาณิชย์ ประจำสหภาพเมียนมา รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการค้าและการเปิดด่านชายแดน ระหว่างไทย กับเมียนมา

โดยให้กรมการค้าต่างประเทศ ดูแลในเรื่องของภาพรวมการค้าชายแดน ติดตามสถานการณ์ พร้อมรายงานอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดด่านการค้าชายแดน ระหว่างไทยกับเมียนมา 3 ด่านที่ยังคงเปิดขนส่งสินค้าอยู่ในช่วงการระบาดของโควิด-19 เวลานี้ยังคงเปิดทำการได้ตามปกติ แต่ต้องมีการจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแบบวันต่อวัน

และสำหรับมูลค่าการค้าชายแดนในปี 2563 ในภาพรวมติดลบร้อยละ 1.7 คิดเป็นมูลค่า 1.3 ล้านล้านบาท โดยปัจจัยหลัก มาจากผลกระทบโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถขนส่งสินค้าได้

 

ยึดกรมการค้าฯจับตาเมียนมารอเคาะเป้าค้าชายแดน

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึง สถานการณ์การค้าชายแดน ของไทยกับเมียนมา เวลานี้ว่า ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยังไม่สามารถประเมินความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับการค้าชายแดนของประเทศไทยได้ โดยด่านการค้าชายแดนระหว่างไทยกับเมียนมาเวลานี้ยังคงเปิดอยู่ 3 ด่านจากทั้งหมด 21 ด่าน ซึ่งก่อนหน้านั้นมีการปิดด่านเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

โดย3ด่าน ประกอบด้วย ด่านแม่สอด มีมูลค่าการค้าเฉลี่ยวันละ 200 ล้านบาท หรือ ปีละประมาณ 7.4 หมื่นล้านบาท ด่านแม่สาย มีมูลค่าการค้าเฉลี่ยวันละ 35 ล้านบาท หรือปีละประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาทและด่านระนอง มีมูลค่าการค้าเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 47 ล้านบาท หรือปีละประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท

และสำหรับเป้าหมายการค้าชายแดนของไทยในปี 2564 ในภาพรวมนั้นทางกรมฯ จะประเมินสถานการณ์ใหม่อีกครั้ง หลังจากเกิดเหตุการณ์ในเมียนมา รวมถึงต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปิดด้านการค้าซึ่งมาจากการระบาดของโควิด-19 ในหลายประเทศ

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube