Home
|
ข่าว

พปชร. ถก ส.ส. รับมือเปิดสภา “สันติ” ไม่หวั่นเป็นเป้าซักฟอก

Featured Image
พปชร.ประชุมส.ส. เตรียมพร้อมก่อนเปิดสภานัดแรก “สันติ” ไม่กังวลหลังเป็นเป้าศึกซักฟอก ย้ำประมูลท่อน้ำอีอีซีถูกตามระเบียบ รับต้องทบทวนหลังคะแนนเลือกตั้ง กทม.ได้น้อย

 

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุม ส.ส. ของพรรค โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนุติธรรม ในฐานะประธานยุทธสาสตร์พรรคพลังประชารัฐ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วม ส่วนพล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้นไม่ได้เข้าร่วม

 

นายสันติ ได้กล่าวภายหลังการประชุม ว่า เป็นการประชุมเพื่อความพร้อมก่อนเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกในวันที่ 25 พ.ค. 2565 ส่วนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 โดยเป็นเงินที่รัฐบาลจะนำมาใช้ในการพัฒนาประเทศ ช่วยเหลือประชาชน ดังนั้น ส.ส.ทุกคนจะต้องช่วยกันพิจารณาว่ามีความสมเหตุสมผลหรือไม่

 

ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายเรื่องใดบ้าง แต่เชื่อว่ารัฐบาล โดยการนำของนายกรัฐมนตรีได้มีการกำชับ และมีความมุ่งมั่นในเรื่องของความโปร่งใส ซื่อสัตย์ สุจริต ดังนั้นไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งก็ฝ่ายค้านเขาก็ต้องทำตามหน้าที่ ส่วนที่ตนเองตกเป็นเป้าหมายในการอภิปรายครั้งนี้ ก็ไม่มีปัญหาอะไรจะเป็นเป้าหมายหรือไม่ไม่สำคัญ แต่สำคัญที่การทำทุกอย่างให้โปร่งใส รักษาประโยชน์ของชาติบ้านเมือง และที่สำคัญทุกอย่างต้องทำถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย ส่วนจะมีแรงกดดันอะไรก็ต้องอดทน

 

ส่วนประเด็นการประมูลท่อส่งน้ำในอีอีซีนั้น ตนเองก็เป็นเพียงผู้กำกับดูแลกรมธนารักษ์เท่านั้น ส่วนเรื่องของการดำเนินการต่างๆ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐที่ดำเนินการตนเพียงแต่กำกับให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด และทางกรมธนารักษ์ก็ได้ยืนยันมาตลอดว่าได้ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมาย และขณะนี้นายอาคมเติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการไปตรวจสอบและมีการรายงานว่าการประมูลท่อส่งน้ำถูกต้องตามระเบียบกฎหมายและทำให้รัฐเสียหายหรือไม่

 

นายสันติ ยังกล่าวถึงผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ที่พรรคพลังประชารัฐได้ ส.ก.เพียง 2 ที่นั่ง ว่า กทม.เป็นจังหวัดหนึ่งใน 77 จังหวัด และถือว่าเป็นจังหวัดที่สำคัญดังนั้นเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาแบบนี้ พรรคพลังประชารัฐก็ต้องกลับมาสำรวจว่าพรรคจะต้องไปดำเนินการอย่างไรต่อเพื่อให้พรรคเกิดความเข้มแข็งต่อไป

 

และเมื่อถามว่ายังจะสามารถเจาะที่นั่ง ส.ส. ใน กทม. ได้เพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น นายสันติ ระบุว่า เรื่องของการเลือกตั้งท้องถิ่นกับการเลือกตั้ง ระดับชาติเป็นคนละเรื่องกันเพราะประชาชนจะดูในส่วนของนโยบายระดับชาติ ผู้ใหญ่ระดับบนว่ามีการทำงานซื่อสัตย์ สุจริต มีความตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนอย่างไรบ้าง ส่วนท้องถิ่นจะดูเรื่องความเดือดร้อนเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราต้องเคารพสิทธิ เคารพเสียงของประชาชน

 

ส่วนที่มีการระบุว่าพรรคพลังประชารัฐได้รับคะแนนในการเลือกตั้ง กทม. น้อยเป็นเพราะกระแสการไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จนมีการตั้งคำถามว่าพล.อ.ประยุทธ์จะยังไปต่อในสมัยหน้าได้หรือไม่นั้น นายสันติ กล่าวว่า จากการที่ได้ทำงานกับนายกฯเป็นประจำ ได้เห็นถึงความทุ่มเททำงานเพื่อประชาชนตนว่าในบางครั้งพวกเราก็ลืมไปว่านายกฯได้ทำงานทุ่มเทและกล้าตัดสินใจในหลายเรื่องที่ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองและความเป็นอยู่ของประชาชนไม่เลวร้ายลงไปกว่าทุกวันนี้ และประคองทำให้ประชาชนสามารถอยู่ได้ในระดับหนึ่ง และตลอด2ปีครึ่งที่ผ่านมานั้น ที่ต่อสู้กับโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกมีความเดือดร้อนสาหัสมากกว่าไทย

 

แต่นายกฯได้ปกป้องและป้องกันจนกระทั่งวันนี้เรากำลังจะเปิดประเทศและสามารถจะก้าวเดินไปได้ทันทีที่เปิดประเทศนี่ก็ทราบว่ามีนักท่องที่อยากมาเที่ยวเมืองไทยอีกเป็นหลายล้านคนหลังจากเปิดประเทศวันที่ 1 มิ.ย. สิ่งเหล่านี้เป็นเครดิตของนายกฯ ดังนั้นการมาถามว่านายกฯไปไหวไม่ ตนฟังแล้วก็ไม่สบายใจ ว่าทำไมสื่อคิดเป็นอย่างนั้น

 

นอกจากนี้ นายสันติ ยังมั่นใจว่าระยะเวลาที่เหลือของรัฐบาล ความนิยมและกระแสนายกรัฐมนตรียังดี เพราะเมื่อเปิดประเทศในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ไม่ใช่เพียงแค่นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา แต่ยังมีนักลงทุนเข้ามาด้วย ทำให้ประเทศดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube