ลุงตู่อยู่นาน-ชัชชาติอยู่ทน
@ยังกระเพื่อมต่อจาก “ชัชชาติเอฟเฟ็กต์” ที่ส่งผลไปทุกหย่อมหญ้าในแวดวงการการเมืองตั้งแต่บนลงล่างตั้งแต่ “ตึกไทย” ถึง “บ้านป่ารอยต่อ” ของ “ศูนย์อำนาจ 3 ป.” จนถึง พรรคหลัก พรรคร่วมรัฐบาล อย่าง พลังประชารัฐ (พปชร.) ประชาธิปัตย์ (ปชป.) ภูมิใจไทย (ภท.) ตลอดไปจนถึง “พรรคสาขาป้อม” อย่าง “เศรษฐกิจไทย” ของ “บิ๊กน้อย” “ผู้กองนัส” และ “พรรคเล็ก” ที่สั่นไหวขยับตัวเปลี่ยนแปลง เพียงแค่ 3 วัน หลังทราบผลคะแนนที่ “ชัชชาติ” ทำลายสถิติได้คะแนน 1.3 ล้าน ขนานคู่ มากับการชนะของ “ฝ่ายเขา” สก.พรรคเพื่อไทย และก้าวไกล ซึ่งถือเป็น “ฝ่ายค้าน” ที่กวาดที่นั่ง 70% ของสภากทม.ตอกย้ำอาการเรตติ้งตกของ “ฝ่ายเรา” ตั้งแต่ “นายกฯลุงตู่” ลงมา ที่แม้ “ฝ่ายอนุรักษ์” จะช่วยบิ๊ว แคมเปญ “ไม่เลือกเราเขามาแน่” ช่วงโค้งสุดท้าย ก็ไม่เป็นผล แบบที่ “พี่โทนี่ ทักษิณ” รีบออกมาช่วยเคลม ว่า เป็นชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ของ “ฝ่ายประชาธิปไตย” ที่จะเป็น “สัญญานภาพ” ไปสู่การเมืองใหญ่
@โดยเฉพาะนอกจากการตอกย้ำไปที่ภาพ “คนกรุงเทพฯ” ที่เหมือนเป็น “ผู้ชี้นำเทรนด์การเมืองใหญ่” ว่าไม่ต้องการจมปลักกับปัญหา “ความขัดแย้ง” ที่ถูกหยิบมาอ้างนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแบบ “ผิดปกติ” อีกแล้วเพราะประเทศไทยกำลังต้องการ “ผู้นำ” ในภาวะวิกฤติ ที่มีความสามารถ เผชิญหน้ากับปัญหาวิกฤติอันตรายอย่างน้อย 3 ด้าน ตรงหน้าตั้งแต่ “โควิด”,”เศรษฐกิจ” และ “สงครามยูเครน” ได้ ยิ่งคนกรุงฯได้เห็นภาพความมุ่งมั่นจริงจัง ความรู้ความสามารถ และวิธีการที่แอ็คทีฟเข้าถึงทุกฝ่ายไม่แบ่งเขาเรา แบบที่มีการ ทอดไมตรีไปยัง ข้าราชการ ผู้บริหาร กทม. ไม่ต้องกลัว ให้ไปเตรียมทำการบ้าน อ่านนโยบายที่หาเสียงรับปากคนกรุงเทพฯไว้ 214 ข้อที่ประมวลมาจากการรับฟังปัญหาของคนกรุงเทพฯ
@รวมถึงภาพการลงพื้นที่ ปล่อยพลัง ด้วยการ วิ่งออกกำลัง พบปะขอบคุณ FC แต่เช้ามืด ชวนผู้สมัครผู้ว่า สก.แต่ละเขต ขึ้นรถลงเรือดูปัญหาพบปะผู้คนตั้งแต่ระดับล่างยันบนของ “ว่าที่ผู้ว่ากทม.คนใหม่” ที่ประกาศพร้อมถูกตรวจสอบติดตามงานจากประชาชน ยิ่งตอกย้ำแบรนด์ “ผู้นำ” ที่เป็น “คนทำงาน” ที่คนที่ลงคะแนนให้พอจะมีความหวังได้ ไม่นับรวม ภาพลักษณ์ติดตาในความติดดินของ “บุรุษผู้แข็งแกร่งในปฐพี” สูงใหญ่ล่ำบึ้กสวมเสื้อดำแขนกุดขาสั้นรองเท้าแตะหิ้วถุงแกง ถูกใจทุกเจนนเรชั่นเก่าใหม่
@ที่ภาพดังกล่าวถูกนำมาเปรียบเทียบกับ “ผู้นำ” ที่อยู่ใน “ศูนย์อำนาจ 3 ป.” ถึงขนาด “เฮียชู” “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” วิเคราะห์แบบชมเปาะในความเข้าใจในปัญหาภาพใหญ่และภาพย่อยทั้งในระดับเมืองและประเทศของ “ชัชชาติ” ในช่วงที่เขาดีเบต ว่า ศักยภาพน่าจะมากกว่ามาเป็น “ผู้ว่ากทม.” คือเป็น “นายกฯ” ได้ ที่ก็สอดรับกับที่บางฝ่ายประเมิน ว่า หาก “ผู้ว่ากทม.ผู้แข็งแกร่งในปฐพี” ไม่โดน “เตะตัดขา” ซะก่อนแบบไม่ทันได้มีผลงานหรือในระยะ2ปีหรือครบวาระ 4 ปี หากเขายังแข็งแกร่ง “ปล่อยพลัง” แก้ปัญหาได้ในทุกปมหนักๆอย่างที่ “ผู้ว่ากทม.คนเก่า” ไม่กล้าเคาะ และมักโยนไปให้ “ผู้นำรัฐบาล” ที่ก็ไม่ได้ฟันธงเช่นกัน อย่างเคส การ ต่อสัปทาน รถไฟฟ้าสายสีเชียว ที่ “ชัชชาติ” พูดชัดเจน ว่าจะเลิกและให้เกิดการแข่งขัน ในขณะที่ “นายกฯลุงตู่” เมื่อวาน (24พ.ค.) ยังคงออกตัวทำนองว่าต้องคุยกันอีกทีกับ “ผู้ว่ากทม.คนใหม่” ซึ่งไม่น่าจะเป็นอุปสรรค เพราะไม่ได้รับผิดชอบแค่ ผู้ว่ากทม.แต่ยังมีมหาดไทย คมนาคม รฟม.สำคัญคือยิ่งช้ายิ่งเสียประโยชน์ ประชาชนเดือดร้อน ก็อยากให้ทุกอย่างสำเร็จด้วยความร่วมมือด้วยกันของทุกฝ่าย ไม่ว่าใครก็ตามตนไม่ใช่ศัตรูกับใคร แต่ทำงานด้วยหลักการ กฎหมาย ตามระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินที่ตนต้องระมัดระวังที่สุด
@ไม่นับรวมที่ “นายกฯลุงตู่” ไปปาฐกถาบนเวทีสัมมนาวิชาการ ความปลอดภัยทางถนน วันนี้ (25พ.ค.) ในหัวข้อ “บทบาทผู้นำประเทศ” ที่ ความบางตอน สะท้อนถึงวิธีคิด ที่บางส่วนเริ่มมีการนำมาเป็น “ภาพเปรียบเทียบ” กับภาวะผู้นำของ “ผู้ว่ากทม.คนใหม่” “ชัชชาติ” อย่างที่ “นายกฯลุงตู่” เหมือนจะ ยอมสภาพในทีกับปัญหาที่รู้แต่แก้ไม่ได้ ว่า “เป็นนายกฯ ต้องรับผิดชอบทุกเรื่องอยู่แล้ว ขอให้ช่วยกันสร้างการรับรู้-สันติ ไม่ได้อยู่ด้วยความเกลียดชัง โดยยอมรับว่าตัวเอง เป็นนายกฯ ที่ “อยู่มานาน” รู้ปัญหาแต่แก้ไม่ได้ 100% เพราะความร่วมมือไม่เกิด โดยบ่นถึงการแก้ปัญหาจราจรที่ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ ว่า “ที่พูดวันนี้ไม่ได้ตำหนิใคร แต่ต้องการเล่าให้ฟังว่าอยู่กับปัญหาอะไรมาบ้าง และพยายามจะแก้อะไรบ้าง และมันติดอะไรบ้างฉะนั้นต้องคิดแบบตนคิดด้วย เราอยู่กันมานานแล้ว และผมก็อยู่มานานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แน่นอนตนรู้ปัญหา วิธีปฏิบัติมีอยู่แต่ทำได้ไม่ 100% เพราะความร่วมมือยังไม่เกิด นี่คือปัญหาเช่นเดียวกับทุกปัญหาในประเทศไทย แต่ตนโทษใครไม่ได้ ก็ต้องทำต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
