@ในมิติ “การเมืองคู่ขนาน” ระหว่าง “การเมืองภาพใหญ่” รัฐบาล3ป.ของ “นายกฯลุงตู่” ที่ยังอยู่ในวังวนเดิม กับโหมดหักเหลี่ยมกับ “ฝ่ายค้าน” และกลุ่มการเมืองอิสระ “พรรคผู้กองนัส”
และกลุ่ม16พรรคเล็ก ที่กำลังมีการต่อรองกัน ผ่านศึกงบประมาณ66 ที่ จะมีการ ลงมติผ่านไม่ผ่านในค่ำคืนนี้ (2มิ.ย.) ในขณะ “การเมืองเล็ก” ระดับเมืองหลวงกรุงเทพฯ ปรากฏ “ภาพความหวัง”
ของผู้คน ทั้งคนกรุงเทพฯและคนต่างจังหวัด ผ่านโมเดล “ผู้นำที่ผู้คนอยากได้” ผ่านภาพ “ผู้ว่ากทม.คนใหม่” ที่ชื่อ “ชัชชาติ สิทธิพันธ์” ที่ถูกระบุว่ามีความ “ครบเครื่อง”
ทั้งโปรไฟล์และทั้งความรู้ความสามารถ การบริหารจัดการ วัตรปฏิบัติ รวมถึง “พลังขับเคลื่อน” การสื่อสาร วิธีคิด และการประนีประนอม ที่สามารถกระตุ้นเร้าให้เกิดความร่วมมือแบบเต็มใจมีส่วนร่วมทั้งจากประชาชน
และจากข้าราชการกรุงเทพฯ รวมถึงภาคเอกชน แบบที่สำแดงผ่าน ปฏิกิริยา “คนกรุงเทพฯ” ทันทีที่ กกต.เลื่อนการรับรองผล (30พ.ค.)
@ยิ่งเมื่อ “ชัชชาติ” เข้าปฏิบัติหน้าที่ “ผู้ว่ากทม.” และมีการเปิดทีมงาน รองผู้ว่าฯและทีมที่ปรึกษา ที่มีโปรไฟล์ผลงานความรู้ความสามารถไม่ธรรมดา อันผสมผสานไปด้วยคนรุ่นใหม่ และรุ่นเก่า
พร้อมกับการเทคแอ๊คชั่นทำงานอย่างรวดเร็วทันทีทั้งเรื่องเล็กๆ อย่างฟุตบาตรทางเดินหาบเร่แผงลอยการจราจรขยะคูคลอง ที่เปิดให้ประชาชน “ร่วมด้วยช่วยกัน” แจ้งร้องเรียน ยันเรื่องใหญ่ๆ แบบโปรเจ็กต์รถไฟฟ้า
ที่ชัดเจนในข้อกฎหมาย ว่า ผู้ว่ากทม.ที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้อันเดอร์ “นายกฯลุงตู่” เช่น “บิ๊กวิน” ที่มาจากการแต่งตั้งตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่มีผลสิ้นสุดเมื่อมีการเลือกตั้งและได้ผู้ว่ากทม.คนใหม่
หากแต่อยู่ในโครงสร้างของกระทรวงมหาดไทยของ “บิ๊กป๊อก” จึงไม่จำเป็นต้องรายงานต่อ ครม.แต่รายงานต่อ “บิ๊กป๊อก”
@โดยเฉพาะ ปม “รถไฟฟ้าสายสีเขียว” ที่วันนี้ (2มิ.ย.) “ชัชชาติ” เชิญตัวแทนบีทีเอส.มาคุยและประกาศเคลียร์จบใน1เดือน แบบมีแนวโน้มเป็นผลดีกับคนกรุงเทพฯทั้งมิติเรื่องราคาค่าโดยสารที่จะลดลงมา25บาทบวกลบโดยย้ำว่า
สิ่งที่กทม.อยากทำมากที่สุด คือการเร่งคืนหนี้สินให้รัฐบาลให้เร็วที่สุดและอยากขอให้กทม.มาดูแลเรื่องการเดินรถเองเพราะถือเป็นสมบัติของเมือง
@เรียกว่า ภาพการทำงานแบบ “ครบเครื่อง” ทุกมิติของ “ชัชชาติ” ผู้ว่ากทม.ถูกมองว่านอกจากกลายเป็น “ความหวัง” ของผู้คนที่ขยายไกลไปถึงหลายจังหวัดที่เคลื่อนไหว
กระเพื่อมต้องการให้มีปรับเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการปกครองส่วนภูมิภาคของกระทรวงมหาดไทย ในประเด็น “การเลือกตั้งผู้ว่า” ขณะเดียวกัน ยังเป็นแรงกกดดันไปยัง “การเมืองใหญ่” ตั้งแต่ “นักการเมือง”
ส.ส.ผู้แทนฯในสภาทั้งฝ่ายค้านรัฐบาลไปยัน นักการเมืองที่อยู่ในส่วนของ “ฝ่ายบริหาร” ที่นำโดย “ศูนย์อำนาจ3ป.” นำโดย “นายกฯลุงตู่” ให้ต้องปรับปรุง ทั้งเรื่องคุณภาพความรู้ความสามารถ
วิธีคิดแบบรับฟังความเห็นประชาชน พร้อมให้ตรวจสอบกาทำงาน แบบก้าวข้าม “วิธีการแบบเก่า” ทางการเมือง ที่มักมีการสร้าง “ปมประเด็น” ที่เชื่อมโยงสถาบันชาติ
นำไปสู่การสร้างรอยความขัดแย้งในสังคมแบ่งแยกผู้คนให้เห็นต่าง จนเกิดเงื่อนไข ทำให้เกิดการเข้ามา “ล้มกระดาน” จากฝ่ายกองทัพและมีการเข้ามาของ “อำนาจใหม่” ด้วยข้ออ้าง “การปฏิรูป” ที่ผลลงเอยแต่ละครั้ง
ยังคงไม่มีอะไรดีขึ้น และกลายเป็นเรื่องการสืบทอดอำนาจ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของ “ฝ่ายอำนาจ” “กลุ่มทุน” สปอนเซอร์ ที่ปลายทางคือผลกระทบความลำบากเดือดร้อนของประชาชน.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews