“สุรชาติ” จี้รัฐอัดฉีดงบฯให้ ศธ.สร้างคุณภาพให้เด็กไทยดีขึ้น ทำให้โรงเรียนเป็นที่พึ่งของเด็ก
นายสุรชาติ เทียนทอง ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย เปิดใจก่อนอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี 2566 ว่า ตนเฝ้ารอวันนี้มากกว่า 3 ปี วันที่จะได้กลับมาทำงานที่สภาในฐานะตัวแทนของประชาชน กว่า 3 ปีที่ผ่านมาตนเฝ้าติดตามการทำงานของรัฐบาล
และการทำงานของสภามาโดยตลอด จนกระทั่งถึงวาระการพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี 2566 โดยวันนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตที่แสนสาหัสอีกครั้ง ซึ่งมีหลายปัจจัยที่สามารถชี้วัดได้ถึงวิกฤตอันแสนสาหัส
เช่น หนี้สาธารณะที่คงค้างกว่า10 ล้านล้านบาท หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีสูงสุดในรอบ 18 ปี การจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการหลายปีติดต่อกัน เพียงแค่ 3 ประเด็นนี้ก็ทำให้ทราบแล้วว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตร้ายแรง
นายสุรชาติ กล่าวต่อว่า หลักในการบริหารในสภาวะวิกฤตเช่นนี้ จะต้องใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าที่สุด และต้องรู้ว่าสิ่งใด คือ ทรัพยากรที่มีค่า ซึ่งรวมถึงภาวะผู้นำที่ดี แต่การติดตามผลงานของรัฐบาลชุดนี้
ยังไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ในหลักการบริหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ประเทศไทยเผชิญกับโควิด-19 อย่างน้อย 2 ปี แต่ตนไม่เห็นการบริหารที่ดี การบริหารไม่มีการปรับเปลี่ยน อีกทั้งยังคงใช้ทัศนคติวิธีการเดิม
รวมถึงการจัดทำงบประมาณของรัฐบาลที่ใช้หลักคิดเดิม หากร่างพระราชบัญญัตินี้เข้าสู่วาระที่ 2 แน่นอนว่า จะต้องใช้วิธีเดิมๆ
ขณะเดียวกัน นายสุรชาติ มองว่า รัฐบาลควรอัดฉีดงบประมาณ ให้กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อสร้างคุณภาพให้เด็กไทยดีขึ้น และทำให้โรงเรียนเป็นที่พึ่งของเด็กนักเรียนและเป็นที่พึ่งของผู้ปกครอง โดยเฉพาะในภาวะยุคข้าวยาก หมากแพง
ที่จะต้องออกไปทำมาหากินเพื่อกลับมาเลี้ยงดูครอบครัว ส่วนงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ถึงจะถูกตัดลดงบประมาณแต่ลดลงเพียง 2% ท่ามกลางสภาวะที่ประชาชนอดอยาก แต่ประเทศไทยยังหมดงบประมาณไปกับการซื้ออาวุธด้านความมั่นคง
ซึ่งในสภาวะนี้มองว่า ไม่สมเหตุสมผล เพราะงบประมาณเกือบ 2 แสนล้านบาท ถือเป็นงบที่สุรุ่ยสุร่ายและตรวจสอบไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้าย นายสุรชาติ ระบุว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีมีทางเลือกอยู่เพียง 2 ทางคือ การยุบสภา หรือ หากนายกรัฐมนตรีเลือกที่จะอยู่ต่อก็ต้องกราบนายกรัฐมนตรี ให้ปรับทัศนคติทั้งการบริหารและการสื่อสารกับประชาชน ดังนั้น ตนจึงขอใช้สิทธิ์ไม่รับร่างพระราชบัญญัตินี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews