Home
|
ข่าว

ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก-ชัชชาติ

@แม้ ผู้ว่ากทม.คนใหม่“ชัชชาติ สิทธิพันธ์”จะมาแบบอ่อนน้อมถ่อมตัวไหว้ขอบคุณขอความร่วมมือแบบ”ร่วมด้วยช่วยกัน”

 

กับทั้งประชาชนและข้าราชการกทม.แต่ก็เด่นชัดในบริบท “ผู้นำ”ที่เข้มแข็งเด็ดขาดสมกับ ฉายาบุรุษผู้แข็งแกร่งในปฐพี ทั้งจุดยืน ความคิด

 

และร่างกาย รวมถึง “ทีมงาน”ที่แข็งแกร่ง มากันแบบ “จัดเต็ม”ที่มาแบบไม่มีต้นทุนการเมือง มุ่งคอนเซ็ปต์ ทุ่มเทการทำงาน กลาย เป็นความหวังใหม่สำหรับการเมืองสนามเล็ก ที่ผู้บริหารเมืองระดับจังหวัด มาจากการเลือกตั้งไม่ใช่แต่งตั้ง

 

ไม่แต่เฉพาะคนกรุงเทพฯหากแต่ยังรวมถึงคนต่างจังหวัด ที่เริ่มอิน รู้สึกร่วมไปด้วยกับคนกรุงเทพ กลายเป็น “ขาประจำ”มอนิเตอร์ไลฟ์สดของ “ชัชชาติ”ที่นำสไตล์การทำงานแบบลุยถึงลูกถึงคนแบบกล้าพูดกล้าทำสามารถซักข้อมูลจากผู้รับผิดชอบทุกฝ่าย

 

เพราะทำการบ้านล่วงหน้ามา2ปี แบบสดๆต่อหน้าคนดูผ่านโซเชียลนับหมื่นแบบไม่มีวันหยุด แม้กระทั่งวันนี้พอทราบวาเกิดอุบัติเหตุ5ศพที่โค้งผีสิงรัชดาช่วงดึกที่ผ่านมา หลังร่วมพระราชพิธีเสร็จ ก็รีบไปดูที่เกิดเหตุและสั่งการให้ผอ.เขต

 

และฝ่ายที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาจุดอันตรายกรุงเทพฯที่ซ้ำซากทันที ประมาณว่า คนต่างจังหวัดเริ่มบิ๊วกันว่า อยากได้ผู้ว่าที่มาจากการเลือกตั้งแบบนี้บ้าง

@ไม่แต่เท่านั้น ในจังหวะคู่ขนาน ที่ “การเมืองใหญ่” “ฝ่ายอำนาจ3ป.”โดยเฉพาะ “นายกฯลุงตู่”ที่ถูกจับตาว่าเรตติ้งตก อยู่ในช่วงขาลงในปีที่8 ที่กำลังอยู่ในสภาพเคราะห์ซ้ำกรรมซัดจาก “ศึกใน”ประดัง”ศึกนอก”ซึ่งเพิ่งผ่านด่านแรกไปได้

 

จากที่ สภาลงมติ ผ่านร่าง พรบ.งบประมาณ 66 วาระแรก ไปตามคาด เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา หลังก่อนหน้าปรากฏความเคลื่อนไหวจากหัวเชื้อ“กบฏผู้กอง”ที่แตะมือกับ “พรรคเล็กกลุ่ม16”และ “ฝ่ายค้าน” ก่อคลื่น “แผนเร่งล้มลุง”ขู่ดังกวาดต้อนเสียงราว40

 

เพื่อร่วมโหวตล้ม พรบ.งบประมาณ เพื่อส่งผลต่อสถานะ “นายกฯลุงตู่”ต้องลาออกหรือยุบสภาฯโดยไม่รอ “ศึกซักฟอก”ที่ภาพจบ นอกจากฝ่ายค้านเพื่อไทยจับ “งูเห่า”ได้ 6 รายที่โหวตเห็นด้วยกับรัฐบาลยังมีภาพ “พรรคเศรษฐกิจไทย” ของ “ผู้กองนัส” ได้โควตาที่นั่งกรรมาธิการงบประมาณไปตามที่ว่าไว้

@ที่จังหวะการประชุมงบประมาณที่มีฉากคล้าย การซ้อมใหญ่ “ศึกซักฟอก”หนนี้มีภาพ “นายกฯลุงตู่”ออกอาการโกรธไม่พอใจส.ส.ฝ่ายค้านทั้งก้าวไกล เพื่อไทย ที่อภิปรายตรวจสอบการบริหารจัดการงบประมาณที่มีปัญหา

 

ในหลายช็อตโดยบางช่วงมีการตอบโต้แล้วเดินหนี ก็ยิ่งถูกนำไปเทียบฟอร์ม “ภาวะผู้นำ”กับ “ผู้ว่ากทม.คนใหม่”ที่พร้อมรับฟังทุกฝ่ายในข้อติและชมแบบนำไปปรับปรุง หรือแม้กระทั่งช็อตที่หลายคนจับตาว่าจะมีงานไหนที่ นายกฯ กับ ผู้ว่ากทม.

 

มีโอกาสป๊ะหน้าทักทายกัน อย่างเช้นงานพระราชพิธีเมื่อเช้า(3มิ.ย.)นักข่าวก็ได้เห็นเพียงการพอปะทักทายกันของ “ชัชชาติ”กับ “บิ๊กป๊อก”ในฐานะ “มท.1”โดยไม่เจอ “นายกฯลุงตู่”ที่เคยเอ่ยปากว่า “ผู้ว่ากทม.”ต้องมาพบและคุยกับ“นายกฯ”แต่ “ชัชชาติ”บอกคนที่เขาควรพบคือ “รมว.มหาดไทย”

@เรียกว่า กระแส “ชัชชาติฟีเวอร์”นี้ ที่ยิ่งทอดยาว ยิ่งมีผลงานออกมา ในแบบประชาชนสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา โดยเข้าไปมอนิเตอร์เรื่องที่ร้องเรียน”ผ่าน แอพิเคชั่น ที่มีการทำมาก่อนหน้าเข้ารับหน้าที่ ซึ่ง “ชัชชาติ”มีการเชื่อมเข้ากับระบบของ กทม.เพื่อให้

 

ข้าราชการ ผู้อำนวยการเขตแต่ละเขต ยึดเป็น KPI ในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างรวดเร็ว แบบไม่มีวันหยุดราชการ ที่นอกจากจะถูกเปรียบเทียบกับ “ผู้นำประเทศ”ในทุกช็อตแล้ว มิติ แนวการทำงานการเมืองแบบให้ “ประชาชนมีส่วนร่วม”

 

ทุกขั้นตอนที่ได้ผลตอบรับเชิงบวกแบบที่ “ชัชชาติ”เริ่มมี“ประชาชน”เป็น “ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก”ออกโรงปกป้องเป็นเดือดเป็นร้อนทันที หากใครจะมาเตะตัดขาดประมาณว่า “ผู้ว่ากทม.ข้าใครอย่าแตะ”

 

อย่างที่เห็นผ่านภาพวันที่ 30พ.ย.ที่หลังจากนั้นทั้ง “กกต.”และ “พี่ศรี”โดนทัวร์ลงหนัก จนต้องหลบต่ำ ที่ทรงการเมืองแบบนี้ เริ่มถูกจับตาจากนักวิเคราะห์หลายฝ่าย ว่า อาจนำไปสู่ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในแบบที่ หลายฝ่ายอยากให้ “นักการเมือง”

 

ที่ประชาชนเลือกมาหลังจากนี้ ทำหน้าที่ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ มากกว่าผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง.

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube