ช้างป่วย-ชัชชาติ
@ถอดรหัสผลลัพธ์ “ศึกย่อยซ้อมใหญ่” ที่ร่างพรบ.งบประมาณ 66 ผ่านสภาฯไป 278 เสียงต่อ 194 เสียง รัฐบาลชนะฝ่ายค้าน ถึง 84 เสียง ที่ทำให้ “ศึกใหญ่” การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติวันที่ 15 มิ.ย. ถูกมองว่าจะไม่มีปัญหาไม่ว่าจะจาก “กองกำลังกบฏผู้กอง” และ “พรรคเล็ก” ยังปรากฎร่องรอย “งูเห่าฝ่ายค้าน” ที่ว่ากันว่า มีทั้งจาก เพื่อไทย ก้าวไกล ไปช่วยยกมือให้ อันเป็นไปตามประกาศมั่นใจของ “บิ๊กป้อม” ก่อนหน้าที่รับปากจะประคอง “นายกฯลุงตู่”ให้ผ่านไปได้จนจบวาระเดือนมี.ค.ปี66 กลายเป็นไปเติมความมั่นใจให้กับ“นายกลุงตู่” ว่า ศึกซักฟอก ที่จะโค่นรัฐบาล น่าจะไม่มีปัญหา ในขณะก็มีผลในการประคองภาพความสัมพันธ์ของ 2 ป.ระหว่าง “พี่ใหญ่-น้องเล็ก” เสถียรภาพรัฐบาล และพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง “ภูมิใจไทย” ของ “หัวหน้าหนู” ที่ถูกมองว่าปฏิบัติการดูดส.ส.ฝ่ายค้านด้านหนึ่งเป็น “อีกตัวช่วย” ประคองสถานการณ์ฝักถั่วในสภาฯ ให้ “ศูนย์อำนาจ” อย่างที่เห็นบรรยากาศความชื่นมื่น ผ่านภาษากายวันนี้ของ “บิ๊กป้อม” ดูยิ้มแย้มแจ่มใส และดู ใกล้ชิด ชื่นมื่น กับ “น้องเล็ก” เช่นเดียวกับ “หัวหน้าหนู” ที่ถือได้ว่าทำตามที่ได้รับปากว่าจะช่วย “นายกฯลุงตู่” ไปถึงฝั่ง แม้ระหว่างรายทางจะถูกระแวงจากตัวแปร “ผู้กองนัส”
@เรียกว่า “ศึกงบประมาณ 66” ด้านหนึ่ง นอกจากเป็นการ “ชิมลางทางการเมือง”ของทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล กับการหยั่งวัดเสียง ไปสู่ศึกครั้งต่อไป ที่ดูเหมือนรัฐบาลนายกฯลุงตู่ จะกู้กับระเบิดได้ในด่านแรก ผ่านภาพ “งูเห่า” ในท่ามกลางบรรยากาศการต่อรองของ “พรรคเล็ก” แล้ว ในมิติ “เนื้อหา” ที่น่าเก็บมาพิจารณานอกจากการตรวจสอบงบประมาณกองทัพ คือประเด็นที่มีการ “ทิ้งทุ่น” ปม การชำแหล่ะ เปรียบเทียบการจัดการงบประมาณปี 66 ของรัฐบาลที่เทงบไปที่เงินเดือนข้าราชการถึง 40% จนส่งผลให้เกิดปัญหา เป็น “ช้างป่วย” จาก “ทิมพิธา” พรรคก้าวไกล ที่น่าสนใจกับการสร้างแรงกระเพื่อม โดย นักการเมืองในรัฐบาล ให้เกิดความเข้าใจผิดจาก “ข้าราชการบำนาญ” จนออกมาเคลื่อนไหวไม่พอใจ ที่ถูกจับตาว่าจะถูกขยายผลในประเด็น “รัฐราชการ” ที่ “รัฐบาลนายกฯลุงตู่” ให้ความสำคัญ
@ที่ประเด็น “ข้าราชการ” ก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นเรื่องกับการเมืองระดับเมือง จากที่ “พี่ศรี” ก็เคยไปร้อง กกต.ถึงการหาเสียงของ “ชัชชาติ” ผู้ว่ากทม.ก่อนหน้านี้ทำนองเหมือนด้อยค่า “ระบบราชการ” ว่าเป็นปัญหา จน “ชัชชาติ” ต้องออกมาแจงยืนยันจะเพื่อนร่วมงาน ไม่เป็น “เจ้านาย” และแสดงให้เห็นผ่านการทำงาน ในหน้าที่ “ผู้ว่ากทม.” ที่เป็นผู้ประสานความร่วมมือของทุกฝ่ายโดยไม่ขัดแย้ง แต่รับฟังความคิดเห็น และการร้องเรียนปัญหา ทั้งประชาชน ข้าราชการ ทำให้ผ่านมาเพียง 6 วัน กระแส “ผู้ว่าชัชชาติ” ยิ่งฟีเว่อร์ ทั้งกับชาวกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ที่ต้องการได้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากการเลือกตั้งแบบกรุงเทพฯ
@ที่กระแสของ “ชัชชาติ” กลายเป็นการสชิงพื้นที่สื่อหลัก โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และในสื่อโซเซียล ในทุกแอ๊คชั่น แม้กระทั่งวิธีคิด วัตรปฏิบัติ โดยเฉพาะความรู้ความสามารถในการทำงาน ที่เห็นผลอย่างรวดเร็วทันใจ จนกลายเป็น “โมเดล” ที่ “ประชาชน” อยากให้ “นักการเมือง” ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติเป็น ที่แน่นอนว่ากระแสดังกล่าวส่งผลต่อ “ศูนย์อำนาจ” โดยเฉพาะตัว “นายกฯลุงตู่” ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบกับ “ผู้ว่ากทม.” ตลอดช่วง 6 วันที่ผ่านมา ทำให้เริ่มมีการจับตาถึง “สัญญาน” เตะตัดขาแบบที่เกิดขึ้นวันที่ 30 พ.ค. ที่กกต. เลื่อนการรับรองผล ที่เริ่มแพลมมาจาก “ฝ่ายกองหนุน” “นายกฯลุงตู่” กับการจับผิด “ความขยันทำงาน” ของ “ชัชชาติ” ไม่นับรวมการดึงไปสู่ประเด็น “อ่อนไหว” ต่างๆแบบที่เริ่มมีหลายคนเริ่มมีการเตือนให้ผู้ว่ากทม.คนใหม่ระวัง “ความดัง” ความฟีเว่อร์ กำลังนำภัยมาสู่เส้นทางในจังหวะการเมืองใหญ่ยังไม่พ้นไปจากวังวนเก่า ที่ทั้งหมดไม่นับรวมการไปแตะประเด็น “ผลประโยชน์” หรือประเด็นที่ซ้อนภาพกับ “ผู้นำฝ่ายอำนาจ” ไม่ว่าจะเป็นปม “รถไฟฟ้าสายสีเขียว” หรือ “ปมโควิด” ล่าสุดที่ “ชัชชาติ” เสนอให้คนกรุงเทพถอดหน้ากาก เปิดสถานบริการ แม้ว่าจะเป็นไปตามทิศทางที่ศบค. กระทรวงสาธารณสุข จะทำอยู่แล้ว อย่างที่วันนี้มีนักข่าวนำไปถาม “นายกฯลุงตู่” ที่ขอให้รอฟัง ศบค.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews