วันนี้มีสาระน่ารู้สั้นๆ มาฝากกัน เคยสงสัยไหมว่าทำไมคีย์บอร์ดที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์หรือปุ่มแป้นพิมพ์ในมือถือ ถึงเรียงแบบนี้ ไม่ใช่เรียงตามตัวอักษรแบบ A B C D ไปเลย วันนี้มีคำตอบมาให้ทุกคนแล้ว
เพราะพิมพ์กันเร็วเกินไป
นี่คือคำตอบ เพราะพิมพ์กันเร็วเกินไป ย้อนไปในยุคแรก สมัยที่เครื่องพิมพ์ดีดแรกๆ ออกมาก็เรียงอักษรตามตัวอักษร A B C D … แบบที่เราท่องกัน
แต่ปัญหามันคือทุกคนพิมพ์กันเร็วเกินไปทำให้ก้านพิมพ์ดีดขัดกัน พอขัดกันมากๆ เครื่องก็มีปัญหา เสียเวลาในการทำงานจนไปถึงเครื่องเสียไปเลย
วิธีแก้ปัญหาที่ดูเหมือนง่ายแต่ทำยากคือ พวกเขาออกแบบให้ตัวอักษรไม่เรียงกัน พัฒนาขึ้นมาจนได้ลำดับการพิมพ์ที่เรียกว่า QWERTY ตั้งชื่อตามตัวอักษร 6 ตัวที่อยู่ด้านซ้าย Q-W-E-R-T-Y
เจ้า QWERTY ก็ไม่ใช่ว่าสุ่มวางมั่วๆ มันเป็นการหยิบเอาตัวอักษณที่ใช้ผสมคำบ่อยๆ ออกไปอยู่ละฝั่งของแป้นพิมพ์ เพื่อให้คนพิมพ์ช้าลง ก้านพิมพ์จะได้ไม่ขัดกันและมือของผู้พิมพ์ไม่ต้องข้ามไปข้ามมา
ส่วนของไทยก็ยากไม่แพ้กันการวางตัวอักษรที่เราคุ้นเคยกัน ฟ ห ก ด หรือ เกษมณี ก็ใช้เวลากว่า 7 ปีกว่าจะสำเร็จ
นายเอดวิน แมคฟาร์แลนด์ เลขานุการส่วนพระองค์ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ดัดแปลงเครื่องพิมพ์ดีดภาษาอังกฤษเป็นเครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทย แต่ภาษาไทยมีอักขระมากกว่าภาษาอังกฤษ เลยทำให้เป็นเรื่องยาก
จึงต้องใช้เครื่องพิมพ์ดีดที่มีแป้นมากกว่าชนิดอื่น คือยี่ห้อ สมิทพรีเมียร์ เมื่อ พ.ศ. 2438 ต่อมา หมอยอร์ช บี แมคฟาร์แลนด์ (พระอาจวิทยาคม) ได้ปรึกษาและทำการค้นคว้ากับพนักงานบริษัท 2 คนคือ
นายสวัสดิ์ มากประยูร ช่างประดิษฐ์ก้านอักษร และนายสุวรรณประเสริฐ เกษมณี (กิมเฮง) ผู้รับหน้าที่ออกแบบและจัดวางตำแหน่งแป้นอักขระ
โดยทั้งคู่พิจารณาจากสถิติการใช้ตัวอักษร โดยรวบรวมจากหนังสือ คำศัพท์ภาษาไทย ใช้เวลาทั้งสิ้น 7 ปี จึงแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2474
เรื่องดูเล็ก แต่จริงๆ แล้วต้องผ่านการออกแบบมาเยอะมาก แน่นอนว่าภายหลังก็มีการออกแบบทั้งอังกฤษและไทย เพื่อให้ผู้ใช้งานพิมพ์ได้เร็วขึ้นแต่ก็ไม่เป็นที่นิยมเท่า QWERTY หรือ เกษมณี ส่วนหนึ่งก็มาจากความคุ้นชินของคนที่ถูกสอนกันมาด้วย ติดตามสาระความรู้อื่นๆได้อีกที่ iNN Lifestyle
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews