นครศรีธรรมราชพบหญิงป่วยโรคประหลาดเป็นแผลเปื่อยทั้งร่าง ขณะหมอระบุพบรายแรกวอนขอช่วย
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าพบผู้ป่วยที่มีชีวิตอย่างยากลำบาก และต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดจากแผลทั่วทั้งร่างตลอดเวลา ผู้ป่วยรายนี้อาศัยอยู่อยู่ที่เรือนพักขนาดเล็กหลังบ้านเลขที่ 25 ซอยหัวหลาง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
จึงเข้าทำการติดตามข้อมูลพบว่าภายในเรือนหลังนี้มีผู้ที่คอยดูแลรักษาผู้ป่วยคือนางสาวจุลีพร อายุ 73 ปี เป็นพี่สาวต่างบิดาของผู้ป่วยคือ นางสาวจำเนียร อายุ 62 ปี หรือป้าเขียวบ้านเดิมอยู่ที่ ถนนท่าช้าง ตำบลคลัง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
โดยพบว่า นางสาวจำเนียรผู้ป่วยอยู่ในสภาพไม่สามารถลุกขึ้นนั่ง หรือช่วยตัวเองได้ ต้องนอนบนแผนซับน้ำเหลือง และของเหลวที่ไหลซึมออกมาจากแผล มีแผลเปื่อยและพุพองทั้งร่างแทบไม่มีพื้นที่ว่างตั้งแต่ใบหน้า ศีรษะ จนถึงฝ่าเท้า เมื่อถามว่าเจ็บปวดมั้ย นางสาวจำเนียร หรือป้าเขียว บอกว่าเจ็บมาก ก่อนที่จะร่ำไห้และพูดอะไรไม่ออก
นางสาวจุลีพร พี่สาวของผู้ป่วยบอกว่าเดิมนั้นน้องสาวเป็นผู้ป่วยติดเตียงนานถึง 12 ปี จากอาการอัมพฤกษ์ซีกขวา แต่เมื่อราวกว่า 1 เดือนที่ผ่านมากลับเป็นโรคเพิ่มขึ้นมาอีกคือเป็นตุ่มพุพองบวมน้ำขึ้นตามผิวหนังทั้งร่างไม่เว้นแม้กระทั่งในปาก
หลังจากนั้นได้แตกเป็นแผลเปื่อยปวดแสบปวดร้อน ตลอดเวลา โดยหลังจากเป็นตุ่มได้ไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราช และ รพ.เทศบาลนครนครศรีธรรมราช แต่อาการไม่ดีขึ้นจึงจำเป็นต้องพากลับที่พักมาดูแลตามที่จะทำได้ แผลลุกลามเปื่อยไปทั้งร่างไปเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหายจากอาการนี้
นางสาวจุลีพร พี่สาวผู้ป่วยยังบอกด้วยว่าตนเองพร้อมน้องสาวพร้อมที่จะให้ความร่วมมือทุกอย่างกับทางแพทย์หากที่จะนำน้องสาวไปเป็นกรณีศึกษาวิจัยอาการที่เกิดขึ้น
เพื่อหาวิธีการหรือตัวยาที่จะรักษาเขาให้หายจากการทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ แพทย์ที่โรงพยาบาลบอกว่าอาการนี้พบเป็นรายแรกที่นครศรีธรรมราช และน่าจะเป็นรายแรกๆ ของประเทศไทย ที่ยังไม่รู้สาเหตุและที่มาของโรค แพทย์ได้ระบุในเอกสารรักษาตัวเพียงว่าผิวหนังอักเสบเท่านั้น
“ส่วนตัวนั้นจนใจไม่รู้จะช่วยเหลือจำเนียรน้องสาวอย่างไรเพราะว่าที่ยังชีพอยู่ตอนนี้ด้วยเบี้ยคนพิการของเขาจำนวน 800 บาทและเบี้ยผู้สูงอายุที่ได้เพิ่มเป็น 1,000 บาท รวมของตัวเองอีก 700 บาท ที่อยู่ได้จนถึงขณะนี้เพราะมีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือและเจ้าของบ้าน คือนายธนารักษ์ เดือนจำรูญ ได้มีความกรุณาให้ที่อาศัยอยู่ได้”
ส่วนความช่วยเหลือในขณะนี้พบว่ามีเพียงโรงพยาบาลเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เพียงแห่งเดียวเท่านั้นได้ส่งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลพร้อมเวชภัณฑ์เข้าให้การดูแลรักษาตามอาการ แต่ยังไม่สามารถวินิจฉัยสาเหตุและอาการของผู้ป่วยรายนี้ได้ ส่วนหน่วยงานอื่นนั้นยังไม่ปรากฏ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews