“เกรซ กาญจน์เกล้า” ร้องดีอีเอส ถูกแอบอ้างชื่อเปิดเพจหลอกลวงแฟนคลับ ประสานตำรวจแกะรอยเส้นทางบัญชีโอนเงินมิจฉาชีพ กร้าวคดีนี้ผิดทั้ง กม.อาญา พ.ร.บ.คอมพ์ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ และPDPA
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รองผู้บังคับการ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 แถลงข่าว “เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า นักแสดง เดินทางมายื่นเรื่องต่อนายชัยวุฒิ พร้อมแจ้งความออนไลน์ กรณีถูกปลอมเฟซบุ๊ก” พร้อมเรียกร้องปิดเพจปลอมทันที
โดยนายชัยวุฒิ ระบุว่า วันนี้นางสาวกาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า หรือเกรซ นักแสดงชื่อดัง เดินทางมาร้องเรียนกรณีถูกแอบอ้างชื่อและรูปภาพ ไปสร้างเพจ เกรซ กาญจน์เกล้าFc! และมีพฤติกรรมจ่ายเงินค่าโปรโมทโพสต์กับเฟซบุ๊ก ให้มียอดคนจำนวนมากเห็นโพสต์ และหลอกลวงมาร่วมลงทุนทำธุรกิจซื้อขายสินค้าออนไลน์กับเกรซ มีผู้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่ตัวนักแสดงก็ได้รับผลกระทบจากการเสียชื่อเสียงด้วย
โดยหลังรับทราบว่ามีมิจฉาชีพนำชื่อไปอ้างเปิดเพจ เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย. 65) ทางเกรซ กาญจน์เกล้า ได้โพสต์ชี้แจงแฟนคลับว่า เนื่องด้วยเกรซได้รับทราบข้อมูลจาก พี่บุ๋ม ปนัดดา ว่ามีบุคคลแอบอ้างสร้างเพจ ‘เกรซ กาญจน์เกล้าFc!’ โดยนำเพจดังกล่าวไปบูสท์โพสต์หลอกให้ร่วมลงทุน หลายล้านบาท โดยอ้างว่าทำธุร กิจซื้อขายสินค้าออนไลน์กับเกรซ จนมีผู้เสียหายหลายรายได้นำเรื่องราวทั้งหมดมาแจ้งให้ทางทีมพี่บุ๋มทราบ ทั้งนี้หลังทราบเรื่องเกรซไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงขอชี้แจงว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุการณ์นี้ รวมถึงจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด
นายชัยวุฒิ ระบุว่า ล่าสุดได้ประสานกับทางเฟซบุ๊ก เพื่อทำการปิดกั้นเพจปลอมดังกล่าวแล้ว ขณะเดียวกัน เตรียมใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยพฤติกรรมของมิจฉาชีพดังกล่าว อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 (2) และมาตรา 343 วรรคสอง กระทำความผิดฐานฉ้อโกง แสดงตนเป็นคนอื่น
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท มาตรา 14 (1) แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ “โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา” ผู้ใดกระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และมาตรา 16 ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท และ
รวมทั้ง อาจเข้าข่ายฐานละเมิดลิขสิทธิ์ ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ มาตรา 27 (2) เผยแพร่งานลิขสิทธิ์ต่อสาธารณชนโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำเพื่อการค้า ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสี่ปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงแปดแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความรับผิดทางทางแพ่งมาตรา 77 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews