ขบวนการขนย้ายแรงงานเถื่อนนำ 39 คนชาติพันธุ์มอญ เมียนมา ซุกกลางป่าชานเมืองนครศรีธรรมราช รอขนย้ายส่งมาเลเซีย
พันตำรวจเอกนัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนายอธิราช โรจน์ดวง ปลัดอำเภอเมืองนครศรีธรรมราชและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบป่าท้องที่หมู่ 5 ตำบลท่าไร่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช หลังจากรับแจ้งจากนายจรัญ บุญวิก กำนันตำบลท่าไร่ และชาวบ้านในท้องที่ว่าพบบุคคลต่างด้าวจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าชายทุ่งในพื้นที่ หลังจากเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นชาวเมียนมา กลุ่มชาติพันธุ์มอญ เป็นชาย 37 คน หญิง 2 คน หลบซ่อนตัวอยู่ในป่า และเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างให้ความร่วมมือไม่มีท่าทีหลบหนี
โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่คุมตัวไว้ได้ทั้งหมดแล้วได้นำตัวเดินทางมายังที่ทำการกองร้อย อสจ.นครศรีธรรมราช ท้องที่ตำบลท่าเรือ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งใช้เป็นสถานที่พักชั่วคราวเพื่อนำชาวเมียนมา ทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการสอบสวนคัดแยก เพื่อจำแนกว่ามีพฤติการณืเป็นผู้เสียหายหรือที่เรียกว่าเหยื่อค้ามนุษย์หรือไม่ ซึ่งพันตำรวจเอกนัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้เร่งประสานงานกับคณะกรรมการสหวิชาชีพ ประกอบด้วยเจ้าพนักงานอัยการ ฝ่ายปกครอง นักสังคมสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่แรงงาน เพื่อสอบสวนอย่างละเอียด
ขณะที่พันตำรวจเอกนัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้ซักถามข้อมูลเบื้องต้นจากบุคคลต่างด้าวได้ความว่าเป็นกลุ่มชาติพันธุ์มอญ ที่อาศัยอยู่ในเมืองมะละแหม่ง ในประเทศเมียนมา ได้รวมตัวกันออกค่าใช้จ่ายจำนวนถึงคนละ 7 หมื่นบาทไทย เพื่อเป็นค่าเดินทางไปทำงานในประเทศมาเลเซีย โดยจ่ายเงินให้นายหน้าหางานล่วงหน้าแล้วคนละ 35,000 บาท หลังจากนั้นได้เดินทางมาจากมะละแหม่ง มายังเมืองทวาย ด้วยรถยนต์ จากนั้นเดินเท้าข้ามภูเขามายังประเทศไทย เข้ามาทางช่องทางธรรมชาติโดยไม่รู้ว่าอยู่ในพื้นที่ไหน และได้ขึ้นรถยนต์ในประเทศไทยเมื่อประมาณ 5 ทุ่มเมื่อคืนที่ผ่านมา และมาถึงในป่าที่ถูกเจ้าหน้าที่จับได้ประมาณ 06.00 น.เมื่อเช้า
ผู้ให้ข้อมูลรายนี้ยังบอกด้วยว่าแต่ละคนมีเป้าหมายในการเดินทางไปทำงานที่มาเซียจากการประสานงานล่วงหน้า ส่วนตัวไปทำงานโรงเพาะเห็ด บางคนไปทำงานอู่ซ่อมสีรถยนต์ รับจ้างตามร้านค้า หรือใช้แรงงานในการก่อสร้าง มีญาติและเพื่อนบ้านเดินทางไปล่วงหน้าแล้วได้ประสานชักชวนกันไปทำงานเนื่องจากอยู่ในเมียนมามีความเป็นอยู่ลำบากจากภาวะสงคราม อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้วิเคราะห์ช่วงเวลาในการขึ้นรถ 5 ทุ่มเมื่อคืนที่ผ่านมา จนถึงจุดที่พบในเวลา 06.00 น.นั้นน่าจะมีต้นทางมาจากแถบ อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร และใกล้เคียงที่มีช่องทางธรรมชาติ ในการข้ามพรมแดน โดยผู้ให้ข้อมูลยืนยันว่าเดินข้ามภูเขามาไม่ได้ใช้เรือหรือมีการข้ามแม่น้ำ
ขณะที่ พันตำรวจเอกนัษฐวุฒิ ระบุว่าเบื้องต้นนั้นน่าเชื่อว่ากลุ่มขนย้ายได้นำแรงงานกลุ่มนี้มาหลบซ่อนตัวรอที่จะมารับขนย้ายไปยังปลายทางคือประเทศที่ 3 การซักถามข้อมูลเบื้องต้นนั้นยังไม่พบว่ามีลักษณะของการเข้าข่ายขบวนการค้ามนุษย์ ทุกคนมีทรัพย์สินส่วนตัวที่พกพาได้อย่างมีอิสระทั้งโทรศัพท์มือถือ บัตรประจำตัวประชาชนของเมียนมา เอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตามต้องรอให้คณะกรรมการสหวิชาชีพเข้าทำการสอบสวนคัดแยกอย่างละเอียดซึ่งหากไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์จะต้องมีการดำเนินคดีฐานหลบหนีเข้าเมือง และเข้าสู่กระบวนการผลักดัน ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องนำพาเจ้าของรถผู้ขับขี่ต้องถูกดำเนินคดีฐานนำพาต่างด้าวตามกระบวนการด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
