เด็ดหัวสอยนั่งร้าน
@จั่วหัวหวือหวาแบบพาดหัวข่าวมาเลยกับชื่อ “ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ที่ฝ่ายค้าน เตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ “นายกฯลุงตู่” และ รัฐมนตรี รายบุคคล รวม 10 คน ที่งวดนี้ กระจายความเสี่ยงแบบครอบคลุม ตั้งแต่ “ศูนย์อำนาจ 3 ป.” “ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ์” ในฐานะ “ส่วนหัว” โดนกันครบลูป ในขณะที่ ส่วน “ลำตัว” มี 7 รัฐมนตรี ทั้งพรรคหลักและพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง “พลังประชารัฐ” (พปชร.), “ภูมิใจไทย” (ภท.)และ “ประชาธิปัตย์” (ปชป.) ที่ถูกฝ่ายค้านมองเป็น “นั่งร้าน” นั้นมีรายงานว่า ประกอบไปด้วย “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน, “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว. DES “สันติ พร้อมพัฒน์” รมว.คลัง, “อนุทิน” รมว.สธ., “ศักดิ์สยาม” รมว.คมนาคม, “จุรินทร์” รมว.พาณิชย์,และ “เฉลิมชัย” รมว.เกษตรฯ โดย มีข้อกล่าวหาคลุมๆแบบยังไม่ลงรายละเอียด คล้ายเดิม 6 ประเด็น อาทิ ความผิดพลาดในการบริหารราชการแผ่นดิน,จงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและมาตรฐานทางจริยธรรม,ส่อทุจริตเอื้อประโยชน์, ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา,ละเมิดสิทธิมนุษยชน และ ทำลายระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา
@เรียกว่า ยุทธการที่ว่า ของฝ่ายค้านรอบนี้นอกจากจะเป็นช็อตต่อจาก “ศึกซักฟอกงบประมาณ 66” ที่พิสูจน์ทราบไปแล้วกับภาพ “ฟาร์มงูเห่า” ที่เพิ่มปริมาณงูข้ามขั้ว และ “กองกำลังอิสระ” ยังคงเป็น “กองหนุน” ที่จะประคอง “นายกฯลุงตู่” ไปจนถึงฝั่งครบวาระเดือนมี.ค.ปี 66 ตามที่ “พี่ใหญ่ป้อม” การันตี ยังถือเป็น “ศึกซักฟอกครั้งสุดท้าย” ของสภาฯและรัฐบาลนี้ ที่ “ผลระยะสั้น” อาจนำมาซึ่งการ “ปรับเปลี่ยนภายใน” ในขณะที่ “ผลระยะยาวถัดไป” ย่อมหมายไปถึง “ศึกเลือกตั้งใหญ่” ที่แต่ละพรรคไม่ว่าฝ่ายค้าน หรือ รัฐบาล จะกลับกลายมาเป็น “คู่แข่งทางการเมือง” กันในแต่ละพื้นที่หาเสียง อย่างที่ชิมลางผ่าน “ศึกเลือกตั้งซ่อม” และ “ศึกสนามเล็ก” เลือกตั้งผู้ว่ากทม.มาแล้ว
@ที่ไม่แปลกที่ “ยุทธการฝ่ายค้าน” จะมีรวมส่วนผสมการมุ่งไปที่ยุทธศาสตร์การเมืองระยะถัดไปอีก 9 เดือนข้างหน้าอยู่ด้วย กับภาพการกระจายการทำลายล้างไปที่ “นั่งร้านอำนาจ” อย่างพรรคร่วมรัฐบาล ภท.และ ปชป.โดยมีเป้าที่ “2หัวหน้าพรรค” ที่เป็นรัฐมนตรี อย่าง “หมอหนู”และ “อู้ดด้า” ภายใต้ “ภาพใหญ่” ที่มี “ทิศทางการเมือง” ผ่านโมเดล “สนามเล็กกรุงเทพฯ” เป็นส่วนผสมจากภายนอก กับภาพบรรยากาศและผลลัพธ์ผ่าน “คนกรุงเทพฯ” ที่ได้มีโอกาสเลือกตั้ง “ผู้ว่ากทม.” ในรอบ 8-9 ปี และได้ “ชัชชาติ สิทธิพันธ์” เข้ามาเป็น “ผู้ว่ากทม.” ที่กำลังฟีเว่อร์ ทั้งกับคนกรุงเทพฯและคนต่างจังหวัด ที่เข้ามาชมการไลฟ์สดการทำงาน นับแต่ กกต.รับรองการเลือกตั้ง ตั้งแต่ 31 พ.ค. จนมีกระแสความคาดหวังในสเปค ว่า “นักการเมืองปัจจุบัน” ในนิติบัญญัติ ส.ส.ผู้แทนฯในสภาฯและฝ่ายบริหารนายกฯและรัฐมนตรี ตั้งแต่และ นักการเมืองในอนาคต ที่จะมีการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะเป็นแบบ “ชัชชาติโมเดล” ไม่นับรวม การปลุกกระแส “การเลือกตั้งผู้ว่า” ทุกจังหวัดขึ้นมา ที่ฝ่ายค้านโดยเฉพาะ “ก้าวไกล” ก็มีการขยับประเด็นนี้ในมิติการกระจายอำนาจจากส่วนกลาง
@น่าสนใจติดตาม คือ “กระแสใหม่” ที่ส่งผลกระทบกับ “การเมืองเก่า” ดังกล่าว ในจังหวะเข้าสู่โซน “กับระเบิดที่ 2” ทางการเมือง ของ “นายกฯลุงตู่” กับ “ศึกซักฟอกครั้งสุดท้าย” กับ “ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ที่ว่า ก่อนจะไป “กับระเบิดที่ 3” การส่งตีความ การครบ 2 วาระ 8 ปี ของ “นายกฯลุงตู่” ในเดือน ส.ค.ปีนี้ กำลังมีแรงกระเพื่อมแก้ทาง อย่างที่เริ่มเห็นความพยายามสร้าง “กระแสตีกลับ” กับ “กระแสใหม่” ดังที่เริ่มมีเสียงเตือนไปยัง “ชัชชาติ” ถึงภาพ “โอเว่อร์พีอาร์” ที่อาจเกิดผลกระทบการสวิงกลับ แบบขยายผลมาจาก “บางฝ่าย” โดยเฉพาะบรรดา “กองหนุน FC ลุงตู่” ที่ย่อมรู้สึกตรงกันข้ามกับ “FCชัชชาติ” อยู่แล้ว.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews