Home
|
ไลฟ์สไตล์

ตะคริวเกิดจากอะไร ป้องกันอย่างไร?

Featured Image

          โอ้ยย เป็นตะคริว เสียงร้องอันเจ็บปวดที่ทุกคนน่าจะเคยร้องกันสักครั้งในชีวิต ทำกิจกรรมอยู่ดีๆ เป็นตะคริวซะงั้น ว่าแต่มันเกิดจากอะไร ป้องกันอย่างไร วันนี้มีสรุปมาให้แล้ว 

ตะคริวคืออะไร? 

          ตะคริว คือ อาการหดเกร็งที่ทำให้กล้ามเนื้อปวดและเป็นก้อนแข็ง ตะคริวจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน โดยที่เราไม่รู้ตัว ส่วนใหญ่จะเกิดอาการปวดอยู่ช่วงหนึ่งเท่านั้น แล้วก็จะดีขึ้น 

ตะคริวเกิดจากอะไร? 

สาเหตุของการเกิดตะคริวนั้นเกิดจากหลายอย่าง เช่น 

  • กล้ามเนื้อที่ทำงานหนัก ใช้งานมากเกินไประหว่างทำกิจกรรม 
  • ระบบไหลเวียนเลือดไปยังกล้ามเนื้อเกิดการหยุดเฉียบพลัน 
  • เกิดจากโรคบางโรค เช่น โรคตับ โรคไต 
  • เกิดจากสภาวะผิดปกติของร่างกาย เช่น ร่างกายขาดเกลือแร่ ,ร่างกายมีสารพิษ 
  • เกิดจากการใช้ยาบางกลุ่ม เช่น ยาขับปัสสาวะ ,ยาราโลซิฟีน 

 

ทำอย่างไรเมื่อเป็นตะคริว 

  • ยืดกล้ามเนื้อ หรือนวดบริเวณที่เป็นตะคริวประมาณ 1-2 นาที
  • หากอาการยังไม่หายดีให้ค่อย ๆ นวดไปเรื่อย ๆ

 

วิธีป้องกันตะคริว 

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลเซียม เช่น ปลา และนม 
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ 
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีน
  • ยืดเส้นยืดสายกล้ามเนื้อก่อนเริ่มออกกำลังกาย
  • ระมัดระวังการทำกิจกรรมที่ใช้กล้ามเนื้อหนักอย่างต่อเนื่อง
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หลังการทานอาหาร

          ใครที่เป็นตะคริวตอนนอนบ่อยๆ แก้ได้โดยนอนในท่าที่ผ่อนคลาย ห่มผ้าให้ร่างกายอบอุ่น ให้เปลี่ยนท่านอน และยืดขาตรงกระดกปลายเท้าประมาณ 5 วินาที ทำวน 5-10 รอบ ก่อนจะนวดบริเวณดังกล่าวจนกว่าจะหาย ยกขาให้สูงโดยใช้หมอนรองขาให้ขาสูงขึ้นจากเตียงประมาณ 10 เซนติเมตร 

          นอกจากนี้ประโยคคลาสิกเดิมๆ อย่าง พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ พักผ่อนเพียงพอ ดูแลร่างกายให้แข็งแรง ก็สามารถช่วยลดการเกิดตะคริวได้ แวะมาอ่านบทความสุขภาพดีๆต่อได้ที่ iNN Lifestyle

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

ขอขอบคุณข้อมูล 

petcharavejhospital

paolohospital

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube