“สุทิน” เผย เสนอเงินโอนคนขยัน อีกก้าวเพื่อแก้ความยากจน บอกเพื่อไทยต่อสู้เพื่อประชาชนมาอย่างยาวนาน
นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประธานคณะทำงานด้านการขจัดปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ กล่าวถึงแนวคิดนโยบายด้านสวัสดิการสังคมของของพรรคเพื่อไทย ในหัวข้อ 8 ปีสวัสดิการสังคมไทยภายใต้ระบอบพล.อ.ประยุทธ์ กับอนาคตรัฐสวัสดิการอนาคตประชาธิปไตยไทย ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน ประธานคณะก้าวหน้า และตัวแทนจากพรรคไทยสร้างไทย ว่า ตนมาเพื่อเสนอแนวคิดการทำ ‘สวัสดิการโดยรัฐ’ ผ่านนโยบาย ‘เงินโอน คนขยัน’ หรือ Nagative Income Tax (NIT) ซึ่งเป็นนโยบายที่ทางพรรคเห็นว่าสามารถทำได้จริง
นายสุทิน กล่าวอีกว่า ภายใต้ข้อจำกัดภาวะวิกฤตการเงินการคลังที่รัฐบาลปัจจุบันได้ก่อหนี้ไว้มหาศาล และนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐใช้หาเสียงไว้ทำไม่ได้ สุดท้ายผลงาน 8 ปีของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงได้สร้างสถิติประชาชนมีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน 2,700 บาทต่อเดือนถึง 4.8 ล้านคน สร้างกลุ่มคน ‘เกือบจน’ ถึง 5.1 ล้านคน และยังมีแรงงานนอกระบบอีกกว่า 20 ล้านคน ซึ่งทั้งหมดไม่สามารถเข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้อย่างทั่วถึง อีกประการ แนวคิดเงินโอนคนขยัน หรือ NIT เกิดขึ้นจากข้อเท็จจริงว่า ประเทศไทยเก็บภาษีได้ 14% ต่อ GDP และงบประมาณก็อยู่ที่ 18% ต่างจากประเทศแถบสแกนดิเนเวียเก็บภาษีได้มากกว่า 50% ของ GDP ประเทศแถบนั้นจึงมีงบสวัสดิการแบบ UBI หรือ universal basic income ได้ ชัดเจนว่าพื้นฐานต่างจากประเทศไทยวันนี้มาก
ซึ่งเงินโอนคนขยัน หรือ Negative Income Tax หรือ NIT จะจัดสรรความช่วยเหลือทางการเงินไปที่กลุ่มที่มีความจำเป็นมากที่สุด โดยใช้เส้นความยากจนและค่าแรงขั้นต่ำเป็นฐานการคำนวน โดยมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน หมายความว่า เริ่มด้วยการมุ่งเพิ่มเงินให้กลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน จนกระทั่งกลุ่มนี้มีรายได้เท่ากับค่าแรงขั้นต่ำก่อน และการได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐ จะเป็นไปในลักษณะหากหารายได้ได้มาก ก็มีโอกาสได้รับเงินสมทบมากขึ้น ซึ่งส่งผลถึงรัฐ จะสามารถใช้จ่ายงบสนับสนุนเป็นไปในขนาดที่เหมาะสม และในขึ้นตอนการดำเนินการนั้น วิธีการนี้ก็สามารถโยกงบประมาณที่รัฐบาลปัจจุบันใช้กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 4 หมื่นล้านต่อปีมาใช้ได้ทันที ไม่จำเป็นต้องกู้เพิ่ม และเพียงพอต่อการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ถือเป็น ‘สวัสดิการโดยรัฐ’ โดยแท้จริง ประเด็นสำคัญที่สุดของนโยบายนี้ คือ การสร้างแรงจูงใจให้คนอยากทำงานและพัฒนาตัวเองไปด้วย นโยบายนี้จึงต้องมาพร้อมกับนโยบายอื่น ที่จะปลดล็อกศักยภาพของประชาชน และใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ในการพัฒนาทั้งคนและเศรษฐกิจในระยะยาว
ทั้งนี้นายสุทิน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ต่อสู้กับ ‘ความจน’ เพื่อประชาชนมาอย่างยาวนาน นโยบายของพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชนจนมาถึงเพื่อไทยพิสูจน์แล้วว่าได้ช่วยลดความยากจนลงได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเราเริ่มคิดจากนโยบายที่ทำได้จริง ‘เงินโอนคนขยัน จะทำให้ผู้มีรายได้น้อยเกินกว่าจะดำรงชีพได้ จะได้รับเงินภาษีแทนการจ่ายเงินภาษี จนกระทั่งมีรายได้สูงพอเสียภาษีได้ แนวคิดนี้มีใช้จริงแล้ว มีข้อมูลศึกษาชัดเจน ชี้ชัดว่าในสหรัฐอเมริกาจำนวนคนจนลดไปถึง 28 ล้านคน และที่รัฐจ่ายเพื่อช่วยเหลือนั้น กลับมาใช้ในเศรษฐกิจได้มากกว่าวิธีการอื่น นี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกำลังศึกษาเพื่อแก้ความยากจนอีกก้าวหนึ่งให้กับพี่น้องคนไทย
ติดตามเนื้อหาดีๆ แบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews