Home
|
ข่าว

อุ๊งอิ๊ง เอฟเฟ็กต์ 3 ป.

อ่านผ่านภาษากายและการขยับเคลื่อนจากเมื่อวานถึงวันนี้(28มิ.ย.) ของ 2 ป.ทั้ง “นายกฯลุงตู่”และ”หัวหน้าป้อม”ออกาอาการชัดว่า ไม่ประมาทกับกระแส

 

 

 

 

“โพลเจ๊ดัน”ของ “นิด้าโพล”ที่เคยดันจน“ชัชชาติ”เข้าวิน “ผู้ว่ากทม.”แบบแลนด์สไลด์พร้อม20ส.ก.เพื่อไทย มาแล้ว กับผลโพลล่าสุดกับเรตติ้ง “อุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลูกสาวคนเล็กของ “พี่โทนี่”ทักษิณ โดยเฉพาะ “นายกฯลุงตู่”

 

ที่เมื่อวาน(27มิ.ย.)เหมือนออกอาการเนือยๆถอนหายใจ แม้ในทีจะทำเป็นเมินกับผลโพลที่ถูก “อุ๊งอิ๊ง”แซงไปไกล โดยหัวเราะหึหึในลำคอ บอกโพลล์ก็คือโพลล์แล้วแต่ใครทำไม่ตรงกันซักโพลบางโพลใช้โทรศัพท์ถามก็ฟังไว้

 

ก่อนจะซัดไปที่ส่อบางฉบับที่ตั้งแท่นโจมตีตนเองไม่มีดีสักอย่างตั้งแต่หน้า1ยันหน้าในควรมองแบบให้ความเป็นธรรมด้วย โดยตนเองประเมินการทำงานและผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นเป็นหลักส่วนประชาชนจะพอใจหรือไม่ก็แล้วแต่

 

เพราะตนก็ทำเพื่อส่วนรวมอยู่แล้วเพื่อคนจำนวนมากในทุกมิติไม่ได้เลือกปฏิบัติ โดยไม่ตอบถึงการปรับแผน รีแบรนด์พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)รวมถึงเรื่องการจะร่วมถกปมแคนดิเดตนายกฯ

@เช่นเดียวกับ “หัวหน้าป้อม”วันนี้(28มิ.ย.)ที่ยอมรับอบบแมนๆว่ารับฟังผลโพลนิด้า และยอมรับในทีว่า พปชร.เรตติ้งตก กำลังดำเนินการแก้ไขปรับปรุง เพราะรับทราบแล้วว่า พรรคพลังประชารัฐตกต่ำ แต่ก็ไม่กังวล

 

เพราะมั่นใจว่า จะสามารถปรับเปลี่ยนได้ทันการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ ต้องสามัคคีและร่วมมือกัน

ส่วนจำเป็นจะต้องมีการปรับภาพลักษณ์พรรคพลังประชารัฐใหม่หรือไม่นั้นไม่จำเป็น เพราะเริ่มแรกเมื่อตนมาทำงานกับพรรคฯ เพียง 2 เดือน ก็ได้รับการเลือกตั้งมากว่า 100 ที่นั่ง และพรรคฯ ได้ทำงานมา 4 ปีในฐานะรัฐบาล

 

ก็มั่นใจว่า น่าจะดีขึ้น เพราะพรรค และรัฐบาล ได้พยายามทำงานให้ประชาชนอย่างหนัก เพื่อให้ประชาชน อยู่ดีกินดี และเมื่อตนลงพื้นที่ ก็ได้รับการต้อนรับจากประชาชนเป็นอย่างดีและปัดตอบคำถาม คะแนนนิยมของ

 

“บิ๊กตู่” ก็ลดลง จำเป็นที่ พปชร.ต้องหาแคนดิเดตทนายกฯเพิ่มหรือไม่ ว่า อันนี้เป็นเหตุการณ์ข้างหน้า อย่าเพึ่งถาม ถามตอนนี้ ผมก็ตอบเองคนเดียวไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของพรรค จะให้ตนตอบยังไง

@เรียกว่าถือว่า“อุ๊งอิ๊งเอฟเฟ็กต์”ส่งผลกระเพื่อมกับทิศทางการเมืองของ “ศูนย์อำนาจ3ป.”ในสถานีถัดไปหลังเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า ในจังหวะที่อีกไม่กี่วันจะถึง “ศึกซักฟอกรัฐบาล”ที่ “นายกฯลุงตู่”เองก็ตกเป็นเป้าร่วมกับ10รมต.

 

ในขณะที่เดือนถัดไปก็ยังมีประเด็นการยื่นตีความ “คุณสมบัตินายกฯ”ของ “ลุงตู่”ที่อยู่มา2สมัย8ปี ที่ด้านหนึ่งนอกจาก “ปัจจัยภายใน”ของรัฐบาล ที่ยังก้ำกึ่งกับ “ศึกใน”ผ่าน “กองกำลังอิสระ”ของ “ผู้กองนัส”อยู่แล้ว ยังมามี จังหวะเขย่าเกมจาก “ภายนอก”

 

ที่ส่งผ่านแรงกดดันผ่านภาพทิศทางความคิดทางการเมืองของ “คนกรุงเทพฯ”ผ่านภาพการทำงานของ“ชัชชาติ”ที่กลายเป็นโมเดลที่ทั้งคนต่างจังหวัดและคนกรุงฯคาดหวังอยากได้นักการเมืองที่เข้ามาทำงานโดยไม่มีเรื่องความขัดแย้ง

 

ที่ส่วนหนึ่งถูกนำมาเปรียบเทียบ “นายกฯลุงตู่”ที่ก่อนหน้านี้เคยมีการประเมิสของ พปชร.ผ่านโพลมาบ้างแล้วว่า “เรตติ้งตก” แม้จะมีคะแนนนำคนอื่นโดยมี “พิธา”เบียดตาม แต่มารอบนี้ถูก “อุ๊งอิ๊ง”ทิ้งขาดตกมาเป็นอันดับ4

@ที่แน่นอนว่า ผลจาก “ศึกซักฟอก”ที่ว่ากันว่า กระแส “โพลเจ๊ดัน”ส่วนหนึ่ง กำลังทำให้เกิด แรงกดดันทิศทางการเมือง ไม่แต่ “งูเห่าย้าขั้ว”หากแต่ยังมีแรงเสียดไปถึง “2พรรคดูโอ” ประชาธิปัตย์(ปชป.)และ “ภูมิใจไทย”(ภท.)ที่ต้อง

 

“มองข้ามช็อต”ไปยังการเลือกตั้ง ที่จะกลายเป็น “ตัวแปร”ทำให้สถานการณ์ของ “นายกฯลุงตู่”ในสภาฯลำบากมากขึ้น ยิ่งหากผลคะแนน “ไว้วางใจ”หรือ”ไม่ไว้วางใจ”ออกมา แม้ไม่ถึงขั้นพิฆาต แต่ย่อมส่งผลถึง การปรับกลยุทธ์ของ

 

พปชร.ในจังหวะ “รีแบรนด์”หนีการตกของเรตติ้ง โดยเฉพาะในประเด็น “แคนดิเดตนายกฯ”ที่ “หัวหน้าป้อม”ย่อมมีความชอบธรรมในเหตุผลอันเป็น “ตรรกะ”ที่จะเสนอชื่อได้เต็มแม็กตามรัฐธรรมนูญคือ3รายชื่อ ไม่ใช่มีแต่ “นายกฯลุงตู่”เช่นกัน.

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube