ประธาน Foxconn เข้าเยี่ยมคารวะ นายกฯ พร้อมผลักดันความร่วมมือด้านตลาดยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ ตั้งเป้าให้ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค
นายยัง หลิว (Mr. Young Liu) ประธานกรรมการ บริษัท Foxconn Technology Group เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมถือเป็นการพบกันอีกครั้งหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับบริษัท Foxconn Technology Groupเมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 ซึ่งนำไปสู่การจัดตั้งบริษัท Horizon Plus ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของทั้งสองบริษัท โดยนายกรัฐมนตรี ขอบคุณที่เลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาครวมทั้งกล่าวชื่นชมบทบาทของผู้บริหารบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์ และบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตไฟฟ้าอัจฉริยะและอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ซึ่งจะมีส่วนช่วยนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยได้เป็นอย่างดี
ด้านประธานฯ Foxconn เชื่อมั่นในศักยภาพของไทย และมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจร่วมกันกับของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจ จะช่วยผลักดันความร่วมมือด้านตลาดยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ในไทยให้ก้าวหน้า ทั้งนี้ ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่จะเป็นโอกาสสำคัญของไทย ในการสร้างการเติบโตให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ
โดยบริษัทฯ พร้อมแสวงหาความร่วมมือกับไทยอย่างครอบคลุมทั้งห่วงโซ่การผลิต ทั้งในแง่การผลิตและนวัตกรรมทางด้าน software ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยียานยนต์ของโลก
ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือในการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตแพลตฟอร์ม Mobility-In-Harmony ซึ่งทั้งสองต่างเห็นพ้องว่าจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล ตลอดจนช่วยขยายอัตราการจ้างงาน และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประธานฯ Foxconn ชื่นชมโครงการ EEC ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าEEC
เป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยอย่างก้าวกระโดด และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวมในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของประเทศ จึงขอเชิญชวนบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและออกแบบชิ้นส่วนอุปกรณ์อัจฉริยะและเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกพิจารณาประเทศไทยเป็นฐานการผลิตซึ่ง ประธานฯ Foxconn
ยินดีสนับสนุนความร่วมมือกับไทยและผู้ประกอบการในท้องถิ่น เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ในภูมิภาคอาเซียน
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำนโยบายในการสนับสนุน และดูแลนักลงทุนในไทยอย่างเท่าเทียม โดยในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบการเช่น โครงการ Factory Sandbox และการจัดหาวัคซีนให้กับพนักงาน เพื่อให้ผู้ประกอบการยังสามารถดำเนินกิจการได้อย่างสะดวก จึงขอให้เชื่อมั่นว่าไม่ว่าจะมีความท้าทายอื่นใด
รัฐบาลจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนให้สามารถดำเนินกิจการได้โดยราบรื่น เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews