“ประวิตร” เร่งขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ สร้างความมั่นคง ย้ำต้องมีแผนชัดเจน เตรียมพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อรองรับน้ำหลาก
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 2/2565 โดยกล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติชุดใหม่ ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561
โดยที่ประชุมได้สั่งการให้เร่งรัดขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่และโครงการสำคัญให้แล้วเสร็จตามเป้าหมาย และที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบแผนงานโครงการสำคัญด้านทรัพยากรน้ำที่หน่วยงานเสนอรวม 4 โครงการ ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำกิ จ.น่าน โดยกรมชลประทาน สามารถส่งน้ำให้กับพื้นที่ชลประทาน 35,558 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 8 ตำบล ใน อ.ท่าวังผา ระยะเวลาดำเนินการ 7 ปี (ปี 2567 – 2573) สถานีสูบน้ำดิบ
พร้อมระบบท่อส่งน้ำเพื่อรองรับการพัฒนาเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จ.ปัตตานี โดย อบจ.ปัตตานี เพื่อส่งน้ำไปยังพื้นที่ 4 อำเภอ ใน จ.ปัตตานี ประกอบด้วย อ.หนองจิก อ.แม่ลาน อ.โคกโพธิ์ และอ.เมืองปัตตานี ระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี (ปี 2567 – 2568)
แผนงานพัฒนาระบบระบายน้ำและจัดการน้ำเสียบริเวณบึงมักกะสัน แนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาและคูน้ำ ถนนวิภาวดีรังสิต โดยกรุงเทพมหานคร เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังและจัดการน้ำเสีย ช่วงจากถนนวิภาวดีรังสิตบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงและบึงมักกะสันไปจนถึงสนามบินดอนเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมพื้นที่ 81.53 ตารางกิโลเมตร แผนงานดำเนินการ 4 ปี (ปี 2567 – 2570)
แผนพัฒนาและอนุรักษ์คลองพระพิมล จ.นนทบุรี-จ.นครปฐม จำนวน 41 โครงการ ระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี (ปี 2565 – 2570) และให้รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อคณะกรรมการลุ่มน้ำเพื่อทราบเป็นระยะ โดยให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านน้ำบูรณาการแผนงานโครงการโดยใช้ระบบ Thai Water Plan (TWP) และติดตามประเมินผลโดยใช้ระบบ Thai Water Assessment (TWA)
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะกรรมการลุ่มน้ำเร่งดำเนินการจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้ง และแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมทั้ง 22 ลุ่มน้ำ โดยให้เชื่อมโยงและบูรณาการกับแผนงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมในปี 2565 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เห็นควรให้ใช้แผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม ปี 2565 ไปพลางก่อน ประกอบด้วย
1) (ร่าง) แผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม ที่ สทนช. จัดเตรียมไว้เบื้องต้น 2) 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2565 3) แผนปฏิบัติการของหน่วยงานภายใต้ 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2565 และ 4) แผนการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน
โดยต้องมีแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน และแผนเผชิญเหตุ ทั้งในเรื่องการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก มีการปรับปรุงสิ่งกีดขวางทางน้ำ การกำจัดผักตบชวา และการเตรียมพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อรองรับน้ำหลาก รวมถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนเมื่อประสบเหตุให้เร็วที่สุด และต้องมีการวางแผนการเก็บน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews