ศาลฎีกานัดชี้ชะตา “เทพไท” และน้องชายจำเลยคดีอาญาจากผลพวงทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีฯ จับตาเลื่อน-ไม่เลื่อน
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อ 5 กรกฎาคม 2565 นายพิชัย บุณยเกียรติ ในฐานะโจทก์ในคดีนี้ ได้เปิดเผยว่าศาลฎีกาได้มีหมายนัดฟังคำพิพากษาในคดีนี้แล้ว คือวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 เวลา 09.00 น.ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรร มราช คดีนี้เริ่มจาก กกต.มีมิติเป็นเอกฉันท์ว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง
ต่อมาคือศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้พิพากษาชี้ขาดว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งเช่นเดียวกัน ขั้นตอนที่สามคือศาลชั้นต้นได้พิจารณาคดีในส่วนของคดีอาญาพิพากษามีความผิดตามกฎหมายอาญา ขั้นตอนที่สี่ศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ซึ่งโดยข้อกฎหมายแล้วจำเลยไม่มีสิทธิที่จะฎีกาแล้ว และผู้พิพากษาหัวหน้าคณะผู้พิจารณาคดีนี้ไม่อนุญาตให้ฎีกา แต่ในคดีนี้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้มอบหมายให้รองอธิบดี ผู้พิพากษาภาค 8 มาร่วมเป็นองค์คณะ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนทั้ง 2 ท่านไม่อนุญาตให้ฎีกา แต่รองอธิบดีที่มาร่วมนั่งฟังแต่ถือว่าได้ร่วมกระบวนการพิจารณา ได้อนุญาตและได้ลงนามให้สู่ศาลฎีกา ซึ่งคงต้องรอฟังคำพิพากษาในวันพรุ่งนี้จะมีการชี้ขาด
นายพิชัย ยังกล่าวด้วยว่าเชื่อว่าด้วยความชัดเจนของคดีนับแต่คดีเลือกตั้งในศาลอุทธรณ์ คดีอาญาที่ชัดเจนมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ มีพยานหลักฐานที่แน่นหนามั่นคง จึงมั่นใจว่าศาลฎีกาจะให้ความเป็นธรรม ต่อข้อถามว่าจะมีข้อกังขาอะไรหรือไม่นั้นตอบไม่ได้ คงต้องรอฟังคำพิพากษาวันพรุ่งนี้ (6ก.ค.)
อย่างไรก็ตามคดีนี้ในสำนวนคำร้องขอให้รับรองฎีกาของฝ่ายจำเลย ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะเจ้าของสำนวน ได้เกษียนคำสั่งความว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อความที่ตัดสินไม่เป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด ส่งคำร้อง พร้อมสำนวนความไปให้ผู้พิพากษาท่านอื่นพิจารณาต่อไป “ ก่อนลงนาม ส่วนผู้พิพากษาที่ได้เกษียนคำสั่งคำร้อง ให้ฎีกาความว่า “พิเคราะห์แล้วข้อความที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด จึงอนุญาตให้ฎีกา” ก่อนลงนาม
มีรายงานเพิ่มเติมว่าคดีนี้กำลังเป็นที่จับตาว่านายมาโนช และ นายเทพไท จำเลยทั้ง 2 จะเดินทางมารับฟังคำพิพากษาทั้งสองคนหรือไม่ หรือจะมีการยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพากษาหรือไม่ ด้วยเหตุผลใด หรือพร้อมรับฟังคำพิพากษา คดีนี้จะมีทิศทางอย่างไร
ซึ่งจะส่งผลต่อชีวิตทางการเมืองของนายเทพไท เสนพงศ์ และนายมาโนช เสนพงศ์ ล้วนเป็นไปได้ทุกทาง หมายความว่าหากศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ทั้งคู่จะต้องเข้าสู่การควบคุมตัวเข้าจำคุกตามคำพิพากษาโดยทันที
แต่ถ้าหากทิศทางเป็นไปด้านบวกอาจมีการพิพากษาแก้โทษ บรรเทาโทษ หรือพิพากษายกฟ้อง จะส่งผลให้สถานการณ์จะบรรเทาไปได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามในการพิจารณาพิพากษาของศาลฎีกาวันพรุ่งนี้ (6ก.ค.)คดีนี้จะถึงที่สุดนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews