เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจชุดสยบไพรี กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักแห่งหนึ่งในซอยหทัยราษฏร์ 16 เขตคลองสามวา
หลังจากที่สามารถจับผู้ต้องหาค้ายาเสพติดได้เมื่อกลางเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเข้ามาตรวจสอบทรัพย์สินในวันนี้
พลตำรวจตรีพรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 เปิดเผยว่า ตำรวจได้ขยายผลคดีนี้มาจากการจับผู้ต้องหาค้ายาบ้า 2,000 เม็ด ไอซ์ 300 กรัม เมื่อปี 2560 ที่ตำรวจกองปราบปรามจับผู้ต้องหารายนี้ได้
และอ้างว่ารับยาเสพติดมาจากนายธนกิจ ศรีศักดิ์นอก เจ้าของบ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่เขตคลองสามวา
โดยบ้านหลังนี้ยังพบว่าเคยเป็นที่พักยาบ้าครั้งละกว่า 1 แสนเม็ด ที่รับมาจากเครือข่ายในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งจากเดิมพบว่าเป็นผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ ก่อนที่จะผันตัวขึ้นมาเป็นรายใหญ่ จากนั้นยังพบว่านำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดไปซื้อทรัพย์สินทั้งบ้านพัก
และสร้างอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า ในอำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา มูลค่ารวมกว่า 43 ล้านบาท ซึ่งตำรวจได้ยึดไว้ตรวจสอบ
สำหรับอาชีพของผู้ต้องหาพบว่าไม่มีอาชีพเป็นหลัก แต่มีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก อีกทั้งในบริเวณบ้านยังมีรถยนต์เข้าออกบ่อยครั้งจนเป็นที่ผิดสังเกต ซึ่งข้างบ้านหลังนี้ยังเป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษาอีกด้วย
“เขาก็จะหลบซ่อนตัวและก็จะอำพรางและจะทำธุรกิจบางอย่างบังหน้า การที่เราจะเข้าถึงเขาขุดรากของโคนจึงต้องใช้ระยะเวลานะครับ จนผ่านไปประมาณ 5 ปี เราก็ได้ทราบว่าเครือข่ายนี้เฉพาะทรัพย์สินที่เราตรวจสอบดูก็ประมาณ 50 ล้าน
อันนี้ ยังไม่หมดนะครับ ก็จะมีการขยายผลเพิ่มเติมด้วย แล้วก็เดือนมิถุนายน เราก็ได้มีการจับกุมหัวหน้ารายใหญ่ของเครือข่ายนี้ก็คือนายธนกิจ พร้อมภรรยา อันนี้ก็จะเป็นคนรับยาเสพติดมาจำหน่ายแล้วก็แพร่ระบาดในกรุงเทพฯและปริมณฑล”
พลตำรวจตรี สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า ปฏิบัติวันนี้ ภายใต้ชื่อว่า “อวสานเจ้าพ่อคลองสามวา”ซึ่งตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ร่วมกับป.ป.สและตำรวจพื้นที่ สน.นิมิตรใหม่ และบก.น .3
เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายโจโจ้ คลองสามวา เป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในการแพร่ระบาดในพื้นที่ของมีนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงปฏิบัติการตรวจคนทั้งหมด 10 จุด ใน 4 จังหวัดกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และจังหวัดฉะเชิงเทรา สามารถจับกุม
ผู้ต้องหาที่เป็นเครือข่ายของโจโจ้ คลองสามวา ได้เพิ่มเติมอีก 4 รายรวมทั้งทลายเครือข่ายและยึดทรัพย์ได้อีกกว่า 43 ล้านบาท
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews