จากกระแส ค่ายเพื่อไทย ของ เฮียโทนี่ ที่ดีวันดีคืน บวกกับ ชัชชาติฟีเวอร์ ที่ยังแรงดีไม่มีตก ทำให้รัฐบาลลายพรางที่อยู่ในช่วงขาลงหนาวจับจิตจับใจ
จึงจำต้องดิ้นหนีตาย พลิกทุกกลยุทธ์ออกมาสู้ และหนึ่งในหมากสำคัญคือการเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งกลับไปเป็นระบบจัดสรรปันส่วนผสมเพื่อสืบทอดอำนาจของตนต่อไป ทำให้ตกผลึกมาเป็นสูตรคำนวณ สส.บัญชีรายชื่อหารด้วย 500
แน่นอนว่าค่ายการเมืองที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือ ค่ายเพื่อไทย ที่ออกแถลงการณ์ทันควัน ว่า วันนี้สมาชิกรัฐสภาจำนวนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในซีกรัฐบาลได้ใช้เสียงข้างมากจงใจกระทำการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 โดยลงมติแก้ไขมาตรา 128 ตามกรรมาธิการเสียงข้างน้อย เพื่อนําระบบจัดสรรปันส่วนผสมที่ถูกยกเลิกโดยรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2564 กลับมาใช้ พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นร่างมาตรา 128 ขัดรัฐธรรมนูญต่อไป
ตามมาด้วย หมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค กล่าวว่า การพลิกมติดังกล่าวอาจมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันเพื่อให้รัฐบาลรอดจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ถ่าหากจริงก็เท่ากับว่าเป็นการครอบงำพรรคการเมืองและก้าวก่ายการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ จะร้องเรียนต่อองค์กรต่างๆ ให้ตรวจสอบเรื่องนี้
ขณะเดียวกัน โฆษกรัฐบาลนายธนกร วังบุญคงชนะ สวน “เพื่อไทย” เลิกท่องบทรัฐบาลสืบทอดอำนาจ ย้ำสูตรหาร 500 ไม่ใช่อำนาจสั่งการนายกฯ แต่เสียงส่วนใหญ่สภาฯ เห็นชอบ เหน็บเผด็จการรัฐสภามีแค่ในสมัยรัฐบาลเพื่อไทย และที่สำคัญ แม้แต่พรรคก้าวไกลซึ่งเป็นฝ่ายค้านด้วยกันกับพรรคเพื่อไทยก็ยังโหวตสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติ เลย แสดงให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลเองก็ทราบดีว่าเจตนาของพรรคเพื่อไทยที่ออกมาคัดค้านแบบหัวชนฝานั้นมีอะไรแอบแฝงใช่หรือไม่
ส่วนกองเชียร์ข้างสนาม อย่างนายสมชัย ศรีสุทธิยากร โฆษกคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า สูตรการคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อในระบบจัดสรรปันส่วน พรรคก้าวไกล อาจเป็นพรรคที่ได้ประโยชน์จากระบบนี้มากที่สุด โดยอาจมี ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ถึง 30 คน
ด้าน พรรคก้าวไกล ที่ถูกคาดหวังว่าจะได้ประโยชน์จากระบบนี้มากที่สุด ได้ตั้งโต๊ะระบุว่า น่าเสียใจมากกับการลงมติของรัฐสภา ที่ไม่ได้ออกแบบระบบการเลือกตั้งที่ดีแก่ประชาชน แต่เป็นการลงมติเพียงเพื่อตอบสนองความต้องการสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ เพียงเท่านั้น จนนำไปสู่การโหวตที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เป็นการลงมติที่อัปยศที่สุด ดังนั้นพรรคก้าวไกลยืนยันว่า เราไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขพ.ร.ป. และเราจะคัดค้านอย่างถึงที่สุด
แต่ทว่าเมื่อไปดูเอกสารบันทึกผลการลงมติในมาตรา 23 ปรากฎว่ามีพรรคฝ่ายค้านร่วมสนับสนุน ด้วยคือ ก้าวไกล 47 เสียง สำหรับเหตุผลที่พรรคก้าวไกลสนับสนุนให้แก้ไข เนื่องจากว่า มีส.ส.ของพรรคแปรญัตติว่าด้วยวิธีคำนวณไว้ ซึ่งเป็นสูตร ที่ใกล้เคียงกับสูตร 500 แล้วเมื่อถึงเวลาลงคะแนน ด้วยคำถามที่ใช้ในการลงมติอาจจทำให้เกิดความสับสนหรือไม่หรือไม่อย่างไร หรือจะเป็นลีลาการพูดของประธานพรเพชร จึงทำให้ผลการลงคะแนนแบบในลักษณะดังกล่าวหรือไม่
แต่ทางพรรคก้าวไกล ต้องออกมาแถลงค้านการลงมติของรัฐสภาครั้งนี้ เพราะกลัวจะถูกมองว่าไปอยู่ข้างฝั่งรัฐบาล แต่ในความเป็นจริงแล้วพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย แม้เป็นพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้ญาติดีต่อกันเท่าไรนัก และที่ผ่านมาก็เคยเปิดศึกกันหลายรอบแล้ว ซึ่งต้องจับตาว่าในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า 2พรรคนี้จะร่วมมือกัน หรือแตกกันมากกว่าเดิม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
