ก้าวสู่ครึ่งปีหลัง 2565 เศรษฐกิจไทยถูกตั้งคำถามว่าจะดีขึ้น หรือ แย่กว่าครึ่งปีแรก นั่นเพราะครึ่งปีหลังมีปัจจัยแวดล้อมที่ยังคงกดดันภาพรวมการขยายตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทั้งราคาพลังงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ก๊าซหุงต้ม รวมถึง ค่าไฟ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดค่าครองชีพยังสูง สะท้อนจากราคาสินค้าที่ประชาชน
บ่นทั่วบ้านทั่วเมืองว่า “แพง” แถมยังมีเรื่องโควิด-19 ที่จะมียอดเพิ่มสูงขึ้น โดยกระทรวงสาธารณะสุขประเมินว่าตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะปรับตัวสูงขึ้น และไป Peak ในช่วงเดือน ก.ย.2565 ขณะที่ในราชกิจจานุเบกษาประกาศให้ โรงฝีดาษลิงเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง
ไม่เพียงเท่านั้น ทาง IMF ก็จะมีการหั่นคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกสำหรับปีนี้ลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากในเดือนเม.ย. IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลงเกือบ 1% สู่ 3.6% ในปี 2565 และ 2566 จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อีกด้วย
สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ถาม เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. “นายดนุชา พิชยนันท์” ถึงทิศทางเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง โดยเขากล่าวว่า สถานการณ์ภายนอกประเทศ รวมถึง อัตราเงินเฟ้อ และราคาน้ำมัน ยังเป็นแรงกดดันต่อเศรษฐกิจไทยที่ทำให้ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ ดังนั้นจึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะทุกวันนี้สถานการณ์ปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานโดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจมอนิเตอร์และดูว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาช่วยเหลือประชาชนจากปัญหาค่าครองชีพที่เกิดขึ้นด้วย
และเมื่อถามว่า เศรษฐกิจไทย จะ เป็นเหมือนดั่ง “ศรีลังกา” หรือไม่ ที่ขณะนี้กำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศ จนประชาชนต้องลุกฮือขับไล่โค่นประธานาธิบดีศรีลังกา โดย “นายดนุชา” ยืนยันด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะ 1.ทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยมีมาก 2.ภาคผลิตยังเดินหน้าได้ และ 3.ความมั่นคงทางด้านพลังงานของไทยยังไม่มีปัญหา
จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามการขับเคลื่อนมาตรการทางเศรษฐกิจของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นห้วงจังหวะที่ นายกฯลุงตู่ ประกาศกลยุทธ์ 3 แกน โดยมีเป้าหมายใหญ่คือการแก้จน พร้อมกับการสร้างความมั่นคั่งให้กับประชาชนนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews