ปิดฉากลงแล้วสำหรับการแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่ทีมชาติไทย U19 พ่ายจุดโทษให้กับ เวียดนาม ไป 4-6 พร้อมทำได้เพียงคว้าอันดับที่ 4 ของการแข่งขันครั้งนี้
โดยผลงานในการแข่งขันครั้งนี้ของ ทีมชาติไทย U19 ในรอบแบ่งกลุ่มถือว่าทำได้ไม่ขี้เหร่ ด้วยการเก็บไป 11 คะแนน จากการชนะ ฟิลิปปินส์ 1-0 ชนะ เมียนมา 3-0 เสมอ อินโดนีเซีย 0-0 ชนะ บรูไน 2-0 และเสมอ เวียดนาม 1-1 ก่อนเข้ารอบรองมาพ่ายให้ลาว 0-2 และพ่ายจุดโทษให้กับ เวียดนาม ในการชิงอันดับที่ 3
จากผลงานของ U19 ทีมชาติไทย ครั้งนี้ ทำให้ต้องมองย้อนกลับไปในการชิงแชมป์อาเซียนทุกรุ่น รวมถึงซีเกมส์ ที่ผ่านมา ทีมชาติไทย คว้าแชมป์ได้เพียงในชุดใหญ่เท่านั้น
ส่งผลให้เกิดคำถามกับการพัฒนาฟุตบอลในบ้านเราอีกครั้ง ว่ามาถูกทางหรือเปล่า ซึ่งหากดูการพัฒนาของเพื่อนบ้านรอบๆ ข้างจะเห็นถึงการพัฒนาได้อย่างชัดเจน ทั้งสปป.ลาว , ฟิลิปปินส์ , อินโดนีเซีย รวมถึง เวียดนาม ที่ขยับขึ้นมาสู้กับ ทีมชาติไทย ได้อย่างสนุกสูสีทุกชุด ส่วนหนึ่งเหล่าทีมอาเซียนต่างต้องการชนะ ไทย ให้ได้ ซึ่งเวลาพบกันเหล่าบรรดาเพื่อนบ้านมักโชว์ผลงานได้ดีโดยเฉพาะชุดเยาวชน
สิ่งที่เห็นได้ชัดในช่วง 2-3 ปีหลังที่ดูหยุดพัฒนาอย่างชัดเจน ก็คงเป็นฟุตบอลระดับเยาวชน ที่ต้องถูกแช่แข็งจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ไม่มีการแข่งขัน และยกเลิกการแข่งขันไปหลายรายการซึ่งก็เข้าใจได้ถึงช่วงเวลาของโรคระบาดที่ทุกอย่างต้องหยุดนิ่งทำให้การพัฒนาฟุตบอลระดับเยาวชนต้องชงักไปแน่นอน
แต่นับจากนี้ผู้ใหญ่ในวงการฟุตบอลคงนิ่งนอนใจไม่ได้แล้ว จากผลงานและการพัฒนาของคู่แข่งที่จี้มาติดๆ หรือ เทียบเท่าเราแล้ว หากยังฝันถึงการไปฟุตบอลโลก เราต้องถีบตัวเองออกจาก อาเซียน ให้ไกลที่สุด เพื่อมาวัดกับทีมใหญ่ๆ ในระดับเอเชียให้ได้ ซึ่งสิ่งแรกที่ควรเริ่มต้นก็ต้องเป็นตั้งแต่ระดับเยาวชน เพื่อต่อยอดขึ้นไปสู่ชุดใหญ่
ซึ่งหลายฝ่ายยังเล็งเห็นถึงการที่ไทยต้องมี ลีกฟุตบอลระดับเยาวชน เป็นอันดับแรกเพื่อเวทีการโชว์ฝีเท้า และการต่อเนื่องในการลงสนามตลอดทั้งปี เหมือนกับลีกใหญ่ในยุโรป ไม่ใช่แค่ถูกดันขึ้นมาซ้อมกับสโมสรอาชีพ แต่ไม่มีโอกาสได้ลงสนาม นอกจากบอลนักเรียน ที่เป็นทัวร์นาเม้นเพียงสั้นๆ ไม่กี่วัน และเพื่อตัวเลือกที่มากขึ้นในทีมชาติทุกชุด
รวมถึงการคัดสรรโค้ช ในการทำทีม ซึ่งจากผลงานที่ผ่านมาเราเห็นได้ชัดว่าโค้ชไทย ก็มีผลงานดีกว่าโค้ชต่างชาติในหลายๆ คนแต่ใช่ว่าโค้ชต่างชาติจะไม่ดีเสมอไป เพราะหากดูจากนิสัยเด็กไทย ที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยว หัวต่อ คงต้องการคนที่เข้าใจวีถีคนไทยและแนวคิดของเด็กไทย เพื่อใส่รายละเอียดทั้งใน และนอกสนามให้กับเด็ก ได้ถูกจุด
และสิ่งที่ไทยควรเร่งพัฒนาอย่างยิ่งในทุกชนิดกีฬา เวลานี้ต้องเป็นวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่เห็นได้ชัดในเวลาที่มีการแข่งขันติดๆ กันนักกีฬามักมีปัญหาเรื่องความฟิตเป็นอย่างมาก หากมีการผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง เชื่อว่าเราจะเห็นนักกีฬาไทยพัฒนาร่างกายอย่างชัดเจน เพราะนักกีฬาไทย แทบทุกชนิดมักถูกชื่นชมถึงเรื่องความสามารถ เทคนิค อยู่เสมอ
อย่างไรก็ตามหากความฝันของฟุตบอลไทย คือการไปบอลโลก สิ่งแรกที่ต้องเร่งทำคือการก้าวข้ามอาเซียน ไปให้ได้ และต้องผลักดันทีมเยาวชนไปให้ถึงบอลโลก และต่อยอดเพื่อความสำเร็จในชุดต่อๆไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews