ชัชชาติ เผย นายกฯ สั่งด่วนให้ ผบ.ทบช่วยขนคนกลับบ้าน
ชัชชาติ ผู้ว่าฯกทม. เปิดกิจกรรมจิตอาสา ร่วมปลูกต้นหว้าและสะเดา ปรับทัศนียภาพและการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เผย นายกฯ ดูแลปชช.เต็มที่ สั่งด่วนให้ ผบ.ทบ และแม่ทัพภาค 1 ช่วย พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพคลอง
วันนี้ (24 ก.ค. 65) เวลา 8.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาและปรับภูมิทัศน์คลองไผ่สิงโต เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2565 ณ สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย
“คลองไผ่สิงโตเป็นโครงการตามนโยบายของจิตอาสา ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญ เพราะเป็นการเชื่อมต่อส่วนเบญจกิติและสวนลุม หรือที่รู้จักกันว่า “สะพานเขียว” ซึ่งโดยปกติแล้วคลองดังกล่าวมีน้ำเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็นมีทัศนียภาพที่ไม่ดี ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวถือว่าเป็นการปรับทัศนียภาพและการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น เพราะมีการขอรับน้ำจากอุโมงค์รับน้ำจากบึงมักกะสันและรับน้ำจากถนนสุขุมวิทเพื่อระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาด้วย” นายชัชชาติกล่าว
ซึ่งวัตถุประสงค์ในการขุดลอกคลองไผ่สิงห์โตครั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ อีกทั้งยังปลูกต้นไม้ปรับภูมิทัศน์ทั้งการปลูกต้นไม้จำนวน 25 ต้นได้แก่ ต้นหว้า 10 ต้น ต้นสะเดา 10 ต้น ต้นขี้เหล็ก 5 ต้น และปลูกไม้พุ่มริมคลอง ตามนโยบายปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น
โดยนายชัชชาติ ได้ปลูกต้นหว้าและต้นสะเดา พร้อมร่วมกิจกรรมอาสาทั้งการถักถางต้นไม้และเก็บขยะรวมไปถึงทาสีตกแต่งริมคลองด้วย
กล่าวถึงปัญหาน้ำท่วมว่า นายกรัฐมนตรีได้ดูแลอย่างเต็มที่ โดยได้สั่งการอย่างเร่งด่วนให้ผบ.ทบและแม่ทัพภาคที่ 1 กรมกิจการพลเรือน ช่วยเหลือกทม.ในทั้งการเก็บขยะหน้าโรงสูบน้ำขนาดใหญ่ การช่วยขนคนกลับบ้านกรณีที่มีน้ำท่วมขัง การขุดลอกคูคลอง ซึ่งตนขอขอบคุณทุกความร่วมมือของทุกหน่วยงาน ส่วนเรื่องการพร่องน้ำ กทม.มียุทธศาสตร์ทำเต็มที่อยู่ตลอด แต่ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดของคลองซึ่งเป็นภาพรวมที่กำลังดำเนินการอยู่
โดยนายชัชชาติยังกล่าวอีกว่า การประเมินสถานการณ์ในช่วงหน้าฝนนั้นต้องยอมรับว่าภาวะโลกร้อนทำให้คาดการณ์สถานการณ์ปริมาณน้ำฝนได้ค่อนข้างยากเพราะมีการตกเป็นหย่อมๆในพื้นที่ ซึ่งในพื้นที่กทม.หากมีน้ำท่วมขังก็ต้องใช้ระยะเวลาในการระบายน้ำระยะหนึ่ง และต้องอาศัยจังหวะนี้ในการเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการขุดลอกคูคลอง
และปรับยุทธศาสตร์ให้มี mobile unit ไปช่วยเสริม เพิ่มความคล่องตัว รวมไปถึงใช้งบประมาณไม่เยอะด้วย ส่วนปัญหาระยะยาวคือการเพิ่มประสิทธิภาพของคลอง โดยปัญหาจะอยู่ที่คลองที่ไม่สามารถระบายน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ อาทิ คลองเคล็ด คลองประเวศ คลองแสนแสบ และคลองลาดพร้าว ที่ถือว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews