นายกฯ สั่งกำลังพลสนับสนุน จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระพันปีหลวง
นายกฯ สั่งกำลังพลสนับสนุนจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 เต็มที่
การประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 7/2565 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม โดยได้มอบนโยบายให้กับหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมการและสนับสนุนจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12
สิงหาคม 2565 ของรัฐบาลอย่างเต็มกำลังความสามารถและสมพระเกียรติอย่าง สูงสุด อาทิ โครงการบรรพชาอุปสมบท 910 รูป เฉลิมพระเกียรติฯ พิธีทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ จำนวน 91 รูป พิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม และพิธีจุดเทียนถวายพระพร ชัยมงคล ตลอดจนกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศลต่าง ๆ เพื่อ ถวายเป็นพระราชกุศล ทั้งนี้ ให้ทุกส่วนราชการจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์
พร้อมเครื่องราชสักการะ ตกแต่งสถานที่ประดับพระฉายาลักษณ์ ประดับธงชาติคู่กับธงตรา สัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 พร้อมประดับผ้าระบายสีฟ้าร่วมกับผ้าระบายสีขาวตามอาคารสถานที่ของหน่วยงาน รวมทั้งจัดทำคำถวายพระพรชัยมงคลเผยแพร่ทางเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ของหน่วยงานและประชาสัมพันธ์ให้กำลังพล ครอบครัว และประชาชนทั่วไปได้ร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์โดยให้ดำเนินการตลอดเดือน สิงหาคม
นอกจากนี้ ให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ ดำรงความต่อเนื่องการจัดเตรียมกองทัพ ให้พร้อมสำหรับการพิทักษ์รักษา ปกป้อง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การป้องกันและการพัฒนาประเทศ รวมทั้งการรักษาผลประโยชน์ของชาติและการช่วยเหลือประชาชน ตลอดจนเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพของกองทัพ
ด้วยการปรับลดกำลังพลลงจำนวนร้อยละ 5 ของยอดบรรจุในเดือนกันยายน 2563 ตามแนวทางการปฏิรูปการบริหาร จัดการกำลังพลของกระทรวงกลาโหม ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 -2570) โดยดำเนินการให้มี ความเหมาะสมและสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของบริบทด้านความมั่นคงทั้งในระดับประเทศ และในระดับภูมิภาค ตลอดจนภัยคุกคามต่างๆ อันเป็นการช่วยลดงบประมาณรายจ่ายบุคลากร ของกระทรวงกลาโหมได้อีกช่องทางหนึ่ง
สำหรับการนำยุทโธปกรณ์ใหม่เข้าประจำการ นั้น ให้ดำเนินการเท่าที่จำเป็น ควบคู่ ไปกับการซ่อมปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่เดิม เพื่อให้สอดคล้องกับขีดความสามารถด้านงบประมาณของประเทศต่อไปส่วนการช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัย ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่
ประเทศไทยตลอดสิงหาคม นั้น ให้บูรณาการและประสานการปฏิบัติ ในการจัดเตรียมมาตรการป้องกันและบรรเทาอุทกภัย รวมถึงฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุร่วมกับกรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจไม่เกิดความซ้ำซ้อนและมีประสิทธิภาพ
ขณะที่การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง โดยยังคงเข้มงวด มาตรการเฝ้าระวังและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ซึ่งจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดจากประเทศเพื่อนบ้านได้อีกช่องทางหนึ่ง และเร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ให้แก่กำลังพลและครอบครัวให้ครบตามเกณฑ์ที่กำหนดโดยเฉพาะเข็มกระตุ้นให้ได้มากที่สุด ตามแนวทางระยะหลังการระบาดของโควิด 19 ต่อไป
ขณะเดียวกัน ยังส่งเสริมการใช้สินค้าภายในประเทศ โดยให้ส่วนราชการในกำกับจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์สินค้า และบริการที่อยู่ในบัญชีนวัตกรรมไทยรวมถึงสินค้าจากวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตรและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ผลิตได้ในประเทศให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผลผลิตที่มาจากวัสดุเหลือใช้หรือผลผลิตทางการเกษตรต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์อาทิ ข้าว ยางพารา เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการ รวมทั้งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรได้อีก ช่องทางหนึ่ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews