“สุวัจน์” แนะรัฐเวลาที่เหลือต้องทำงาน 24 ชม.แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ประชาชน สูตรบัญชีรายชื่อ สุดท้ายก็ต้องไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ ขณะ บัตรเลือกตั้ง ต้องยึดตามรัฐธรรมนูญ
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ว่าจากนี้ไปเหลือ 7-8 เดือน จะหมดเทอมของสภา ถือว่าหมดเทอมของรัฐบาลอย่างเป็นทางการเมื่อรัฐบาลผ่านอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว แรงกดดันทางการเมืองต่างๆ น่าที่จะเบาลง และรัฐบาลสามารถที่จะได้รับความไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ แต่ถึงแม้รัฐบาลจะชนะ แต่ขณะเดียวกันข้อห่วงใยต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงของการอภิปราย ข้อมูลต่างๆ ก็อยากให้รัฐบาลได้รวบรวม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อเสนอแนะหรือข้อทักท้วง อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นประโยชน์ ก็แสดงออกถึงการทำงานร่วมกัน
ฉะนั้นอยากให้รัฐบาลได้นำข้อมูลต่างๆ ทั้งข้อมูลที่รัฐบาลชี้แจงรวมทั้งข้อมูลของฝ่ายค้านที่จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานในช่วงที่เหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้คิดว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความเดือดร้อนเรื่องข้าวของแพง เรื่องสินค้าราคาแพง เรื่องค่าครองชีพ เรื่องน้ำมัน เรื่องไฟฟ้า เรื่องแก๊สหุงต้ม ค่าไฟต่างๆ ฉะนั้นอยากให้รัฐบาลได้ใช้ระยะเวลาที่เหลือทำงานแบบ 24 ชม.ทุกวัน ในการมุ่งมั่น แก้ไขปัญหาโดยเฉพาะปัญหาเฉพาะหน้า ประชาชนเดือดร้อนกันมากเรื่องของแพง ส่วนความเป็นห่วงกรณีนายกรัฐมนตรีบริหารเกิน 8 ปี ในกระบวนการยุติธรรมนั้น คิดว่าแล้วแต่รัฐธรรมนูญเขียนไว้อย่างไร และมีการตีความไว้อย่างไร อันนั้นถือว่าเป็นไปตามกลไก เป็นไปตามกติกา
ส่วนการคำนวณสูตร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หาร 500 หาร 100 นั้น คิดว่า เรื่องนี้มีคามคิดเห็นที่แตกต่างกัน บางคนก็มีความคิดเห็นว่า 500 บางท่านก็ว่า 100 ก็ต้องแล้วแต่มติของรัฐสภาบางคนก็ท้วงติงว่าถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถึงอย่างไรก็คิดว่าสุดท้ายก็ต้องไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นตอนนี้ยังไม่ถึงกระบวนการนั้น ยังอยู่ในวาระ 2 วาระ 3 ก็ต้องดูว่ารัฐบาลจะมีความคิดเห็นอย่างไรและเสร็จแล้วก็ต้องไปที่ศาล รธน. ฉะนั้นถ้าศาล รธน.ตัดสินออกมาอย่างไรนั่นก็น่าที่จะเป็นคำตอบที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับ
การเลือกตั้งครั้งหน้านี้ถือว่าเหมือนกับเป็นทางออกในเรื่องของวิกฤติต่างๆ ของบ้านเมือง กติกาอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ถ้าสามารถที่จะสร้างกฎเกณฑ์ สร้างกติกาที่ทุกฝ่ายรู้สึกว่าเป็นธรรม ทุกฝ่ายยอมรับ และทุกคนก็อยากไปเลือกตั้ง จะทำให้การเลือกตั้งได้รับการยอมรับ ก็จะเป็นทางออก การเมืองก็จะไม่เดตล็อค ฉะนั้นคิดว่าถ้าเริ่มต้นกันด้วยกติกาการเลือกตั้งที่เป็นธรรมและสอดคล้องกับ รธน. และทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน มันก็จะเป็นการส่งเสริมการปฏิรูปการเมือง ส่วนเรื่องบัตรลงคะแนนเป็นบัตรเดียวหรือสองใบนั้น คิดว่าเรื่องนี้ในรัฐธรรมนูญก็แก้ไขไปแล้ว เพราะ รธน.ก็บอกไว้แล้วว่า การเลือกตั้งบัตร 2 ใบ อันนั้นแก้ไขไปแล้ว เพียงแต่ตอนนี้มาพูดถึงกฎหมายลูก กฎหมายประกอบ รธน.ฉะนั้นกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งก็ต้องอยู่ภายใต้ของ รธน.ที่มีการแก้ไขก็คือ มี ส.ส.เขต 400 คน มี ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 และมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ทุกอย่างก็ต้องอยู่ในกรอบของ รธน.ที่เราแก้ไขกันไปแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews