Home
|
ภูมิภาค

นรข.เขตนครพนมผนึกกำลังยึดกัญชา635แท่ง

Featured Image
นรข.เขตนครพนม บูรณาการร่วมตำรวจ ทหารพราน ตรวจยึดกัญชา 635 แท่ง น้ำหนัก 635 กิโลกรัม

พล.ร.ต.จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผบ.นรข., น.อ.สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา ผบ.นรข.เขตนครพนม ร่วมแถลงข่าวว่า วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลาประมาณ 21.00 น. ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านเหล่าหนาด ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้ตรวจยึดของกลางดังนี้
ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) จำนวน 635 แท่ง น้ำหนักประมาณ 635 กิโลกรัม
รถกระบะบรรทุกขนาดเล็กติดหลังคาเหล็กทึบ ยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX หมายเลขทะเบียน กว 2593 อุดรธานี จำนวน 1 คัน
โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO สีแดง จำนวน 1 เครื่อง

สืบเนื่องจาก น.ท.วิระวุฒิ บุญจันทร์ หน.สน.เรือบ้านแพง นรข.เขตนครพนม ได้รับแจ้งจากหน่วยข่าว ว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดบริเวณบ้านเหล่าหนาด จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน ลงตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน ที่ซุ่มตรวจการอยู่ ได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 1 คัน ไม่เปิดไฟรถวิ่งเข้ามาบริเวณบันไดเขื่อน ทางลงแม่น้ำโขง และได้ขับรถถอยหลังเข้าจอดบริเวณดังกล่าว ซึ่งห่างจากจุดที่เจ้าหน้าที่ทำการซุ่มตรวจการอยู่ประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจการด้วยกล้องไนท์วิชั่นพบเป็นรถกระบะติดหลังคาทึบ และกลุ่มบุคคลประมาณ 4 – 5 คน กำลังขนวัตถุบางอย่างจากริมฝั่งแม่น้ำโขงขึ้นมายังรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ เมื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวเห็น เจ้าหน้าที่จึงได้ทิ้งรถยนต์ และวัตถุดังกล่าว แล้วอาศัยความมืดในการวิ่งหลบหนี ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมตัวไว้ได้

จากการตรวจสอบเบื้องต้นของ เจ้าหน้าที่พบเป็นกระสอบสีดำจำนวน 15 กระสอบ ตรวจดูภายในกระสอบเป็นกัญชาอัดแท่ง รถยนต์ยี่ห้อ ISUZU จำนวน 1 คัน และในรถยนต์พบโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้นำของกลางทั้งหมดมาที่ สน.เรือบ้านแพง เพื่อทำการตรวจสอบโดยละเอียด จากการตรวจสอบโดยละเอียดพบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) จำนวน 635 แท่งพร้อมกับนำของกลางทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube