“บิ๊กใหม่” ตั้งความหวังจากซิลิโคน คลายคดีฆ่าโบกปูนฝัง 2 ศพโคราช ยอมรับคดีนี้ยากสุดที่เคยเจอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่มีการประชุมนานร่วม 3 ชั่วโมง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ได้ตอบคำถามกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับความคืบหน้าทางคดี นานกว่า 20 นาที
โดยมีข้อสรุปว่า จนถึงตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถที่จะระบุตัวตนของผู้เสียชีวิตได้ เนื่องจากหลักฐานในที่เกิดเหตุนั้นถูกหลายปัจจัยไปรบกวนทำลายอัตลักษณ์ที่จะยืนยันตัวบุคคลจนทำให้หลักฐานเหลือน้อยเกินไป
แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้มีการจัดทีมเก็บหลักฐานที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมอุปกรณ์ที่มีความทันสมัยและละเอียดมากยิ่งขึ้นลงพื้นที่เพื่อทำการเก็บข้อมูลในการระบุอัตลักษณ์ของผู้ตายเพิ่มเติม ซึ่งล่าสุดสามารถระบุรายละเอียดได้เกินกว่า 10 จุด
และหากสามารถตรวจสอบหาฐานข้อมูลบุคคลที่มีลักษณะอัตลักษณ์ตรงกันได้ก็จะสามารถรู้ตัวผู้เสียชีวิตได้ทันที แต่จนถึงขณะนี้จากการนำข้อมูลทั้งหมดไปตรวจเทียบฐานข้อมูลในประเทศยังไม่ว่ามีบุคคลใดที่มีลักษณะตรงกับข้อมูลที่ได้รับมา
จึงทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่าทั้งสองอาจจะเป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะศพที่เป็นชายซึ่งมีลักษณะโครงสร้างที่แตกต่างจากคนไทยค่อนข้างมาก ซึ่งนอกจากการเปรียบเทียบฐานข้อมูลในประเทศแล้ว
ยังได้มีการประสานไปยังสถานทูตต่างประเทศและตำรวจสากล เพื่อให้ช่วยสืบหาข้อมูลผู้เดินทางเข้าประเทศไทยร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ระหว่างประเทศ ว่ามีใครสูญหายไปบ้างหรือไม่ แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลหรือความคืบหน้าใดๆเข้ามา
และมีความจำเป็นต้องมาทบทวนรายละเอียดขั้นตอนในการเก็บหลักฐานกันใหม่ว่ามีความผิดพลาดไปตรงจุดใดบ้าง
ขณะเดียวกันวัตถุพยานอื่นๆที่สามารถเก็บรวบรวมมาได้ก็ยังไม่สามารถนำไปสู่การคลี่คลายคดีได้ ทั้งในส่วนของปลอกกระสุนปืนที่มีการตรวจสอบพบในที่เกิดเหตุ ถึงแม้ว่าขณะนี้จะสามารถระบุขนาดและชนิดของอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุได้
แต่อาวุธปืนชนิดนี้ก็เป็นอาวุธที่มีผู้ครอบครองเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบอย่างมาก ส่วนในเรื่องของรอยสักที่พบบนศพของหญิงสาวนั้น จากการประสานงานไปยังทางสมาคมช่างสักของไทย
ยังไม่มีใครออกมาให้เบาะแส ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจกำลังประสานการทำงานร่วมกับทางหน่วยงานต่างประเทศเพื่อให้ช่วยตรวจสอบเกี่ยวกับรอยสักนี้ด้วย
นอกจากนี้ทาง รอง ผบ.ตร.ยังได้ยอมรับเกี่ยวกับหลักฐานชิ้นสำคัญที่อาจจะเป็นตัวที่สามารถระบุตัวบุคคลได้มากที่สุดขณะนี้ก็คือ ซิลิโคนเสริมหน้าอก ที่พบอยู่ภายในศพหญิงสาว
ซึ่งประเด็นนี้ทางตำรวจได้สืบหาข้อมูลจากชิปหมายเลขประจำชิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทราบว่าเป็นซิลิโคนที่มีบริษัทผลิตอยู่ที่ต่างประเทศ และตัวแทนจำหน่ายอยู่ในประเทศไทย
แต่จากการตรวจสอบตัวแทนจำหน่ายยังไม่พบว่ามีการจำหน่ายซิลิโคนหมายเลขนี้ภายในประเทศแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการประสานงานไปยังบริษัทแม่ที่ผลิตซิลิโคนชิ้นนี้ เพื่อติดตามหาตัวแทนจำหน่ายที่ซื้อ
ซึ่งหากพบแล้วก็จะสามารถเป็นจุดเริ่มต้นที่จะติดตามตรวจสอบประวัติไปถึงสถาบันที่นำไปใช้และตัวผู้ที่ถูกทำศัลยกรรมจนสามารถระบุตัวตนของศพได้ แต่คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะ
ทั้งนี้ทาง พล.ต.อ.สุชาติ ยอมรับว่า คดีนี้เป็นคดีที่ค่อนข้างยากกว่าทุกๆคดีที่ตนเองเคยทำงานมา จากประสบการณ์กว่า 1,000 คดี เดิมทีมองว่าจะสามารถคลี่คลายได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
แต่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างที่ไม่เอื้อต่อการสอบสวนโดยเฉพาะวันเวลาในการก่อเหตุล่วงเลยยาวนาน ทำให้หลักฐานส่วนใหญ่ถูกทำลายไปจำนวนมาก ประกอบการลงมือก่อเหตุนั้นมีความละเอียดอ่อนมากทำให้การตรวจสอบหลักฐานทำได้ยากมากกว่าทุกๆคดีที่เคยทำมา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews