Home
|
ข่าว

“ไพบูลย์” ยัน พปชร. ไม่เอาแก้ รธน.เป็นบัตรใบเดียว

Featured Image
“ไพบูลย์” ยัน พปชร.ไม่เอาด้วย แก้ รธน.กลับเป็นบัตรใบเดียว ย้ำคำเดิม ยื่นศาล รธน.ตีความสูตรหาร 500

 

 

นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะมีการให้กลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ว่า แนวทางของพรรคพลังประชารัฐนั้น

 

มีนโยบายชัดเจน ไม่สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ใช้บัตรไปใบเดียวแน่นอน ด้วยเหตุที่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาแล้ว ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐ

 

จึงมีจุดยืนชัดเจน ซึ่งจากข่าวมีฝ่ายต่างๆ ที่ประสงค์อยากจะได้ แต่ไม่ใช่ความประสงค์ของพรรคพลังประชารัฐ

 

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเป็นการหารือร่วมกันของกรรมการบริหารพรรค และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ก็เห็นชอบมติดังกล่าว

 

พร้อมมองข่าวดังกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติเพราะขณะนี้ใกล้จะเลือกตั้งแล้ว มีกลุ่มที่อยากให้มีบัตรใบเดียว และมีความพยายามเรื่องนี้มาโดยตลอด

 

ขณะเดียวกัน นายไพบูลย์ ยังย้ำด้วยว่า เมื่อร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผ่านวาระสามแล้ว จากนั้น

 

เมื่อถึงขั้นตอนที่ รัฐสภาส่งเนื้อหาไปยังนายกฯ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป โดยรัฐธรรมนูญกำหนดให้ นายกฯ มีเวลารอไว้ 5 วันก่อนทูลเกล้าฯ ร่างพ.ร.ป.

 

ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว สมาชิกรัฐสภาสามารถเข้าชื่อ เพื่อยื่นร่างส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ ตนจะยื่นช่วงนั้น โดยจะยื่นในนามเคยเป็นประธานกรรมาธิการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

 

สำหรับการกำหนดสูตรคำนวณ ส.ส.ตามร่าง พ.ร.ป. นั้น ต้องทำให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่แก้ไข โดยเฉพาะประเด็นคำว่าสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรง

 

ซึ่งแปลความถึงจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ดังนั้น ในมิติทางกฎหมายจะแปลงไปเป็นจำนวน 500 คน ซึ่งหมายถึง ส.ส. ทั้งหมดของสภาฯ ไม่ได้

 

เพราะขัดรัฐธรรมนูญ ม.91 ที่แก้ไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ในการยื่นศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตนได้เตรียมดำเนินการไว้แล้ว เบื้องต้นจะมีเอกสารประกอบคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญประมาณ 1,000 หน้า

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube