ทองขาขึ้นหรือลงก่อนสิ้นปี
จากรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงเหนือระดับ 1,800 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
เนื่องมาจากได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ แต่ทิศทางยังผันผวนได้จากปัจจัยความขัดแย้งหลายๆแห่งทั่วโลก ทั้งความขัดแย้งระหว่าง สหรัฐอเมริกา กับ จีน ที่ยังเป็นสิ่งท้าทายต่อระบบเศรษฐกิจและราคาสินค้าต่างๆ ที่จะต้องจับตาดูกันอย่างใกล้ชิด
และความขัดแย้งระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ที่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ ประกอบกับที่ผ่านมาราคาบิทคอยน์ ก็ไม่ได้สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนได้มากนักจากการปรับตัวลงแรง แต่มีเพียงทองคำที่เริ่มปรับดีดตัวขึ้นในช่วงนี้
โดยนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ราคาทองมีแนวโน้มจะขยับขึ้นต่อหลังปรับตัวขึ้นยืนที่ระดับ 1,800 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากปัจจัยประเด็นความขัดแย้งทั้ง จีน-สหรัฐ รัสเซีย-ยูเครน
รวมทั้งการประเด็นไต้หวัน ซึ่งจะมีผลต่อราคาทองคำให้ผันผวนได้ในระยะสั้น ส่วนระยะยาวมีโอกาสขยับขึ้นได้ แต่ปัจจัยทั้งหมดมีผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนทั้งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและเงินบาท
โดยที่ผ่านมาแม้ราคาทองคำในตลาดโลกจะปรับขึ้นแต่ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าทำให้ราคาปรับขึ้นไม่มากนัก ซึ่งการลงทุนในทองคำรูปแบบเงินบาทยังลงทุนได้ เพราะมองว่าราคาทองจะยังอยู่เหนือระดับบาทละ 30,000 บาท
ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้า น่าจะอยู่ในกรอบ 1,785-1,810 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
แม้ว่าจะมีทั้งปัจจัยที่ส่งผลกระทบทำให้ราคาทองปรับตัวลดลง และปัจจัยหนุนให้ราคาทองพุ่งสูงขึ้น แต่ยังมีโอกาสสำหรับเก็บสะสมลงทุนไว้บ้างในช่วงที่ราคาตกลงไป โดยอาจจะลงทุนทั้งในรูปแบบซื้อทองคำแท่งโดยตรง หรือ ออมทองผ่านบริษัทค้าทอง
หรืออาจจะเลือกซื้อผ่านกองทุนรวมทองคำที่มีอยู่ในตลาดก็ได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้เนื่องจากไม่มีสินทรัพย์อะไรที่ให้ผลตอบแทนดีตลอดเวลา โดยไม่ปรับตัวลงเลย ดังนั้นถ้าเรากระจายใส่เงินไว้ในสินทรัพย์หลายประเภท เพื่อจะช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews