Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ยิ้มซ่อนดาบ-ลุงตู่ 8 ปี

ยิ้มซ่อนดาบ-ลุงตู่ 8 ปี

 

@ตีความผ่าน “ภาษากาย”พี่น้อง2ป.“บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่”คนหนึ่งออกอาการหงุดหงิด กำลังตกเป็นเป้าตำบลกระสุนตก ถูกหาอยู่อยู่เบื้องหลังเกมรีโมท “สภาหาร 500 ล่ม” แถมทำท่าจะมีเรื่องกับ “อดีตคนกันเอง” อย่าง “พีรพันธ์” อดีตกุนซือตึกไทย ที่เพิ่งมานั่ง หัวหน้า “พรรคลุงตู่” “รวมไทยสร้างชาติ” ที่ท้าดัง “ก็มาสิครับ” หลัง “ไพบูลย์ นิติตะวัน” แห่งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ของ “หัวหน้าป้อม” ขู่ฟ้อง เหตุ “พีรพันธ์” โพส FB ให้จับตา “สภาล่ม” มีคนบงการเกม โดย “หัวหน้าป้อม” เมื่อวาน (15 ส.ค.) ถึงกับ “ว๊ากเพ้ย” ถามกลับ “พูดอย่างงี้ได้ไง” หลังนักข่าว ถามกรณี “พีรพันธ์” โพสต์ ทำนอง “มีนักเล่นเกม ที่หัวหน้าทีม ให้ลูกทีมไปลงชื่อ แล้วไม่ต้องลงสนาม เปลี่ยนข้างมายิงประตูตัวเอง” โดย “บิ๊กป้อม” ให้ไปถาม พีระพันธุ์ เอง และ นักข่าว มาถามย้ำ ว่า มีการตีความว่าหมายถึง “บิ๊กป้อม” จนทำให้ “พล.อ.ประวิตร” ออกอาการไม่พอใจผ่านสีหน้า ร้อง เฮ้ย มาพูดอย่างงี้ได้อย่างไร

 

@ในขณะที่หันไปอีกคนหนึ่ง อย่าง “บิ๊กตู่” กลับมีอาการตรงข้ามในภาษากาย ที่ดูไม่กังวลกับ “กับดัก 8 ปีนายกฯ” ที่เหลือเวลาอีก 7 วันข้างหน้า (23 ส.ค.) ที่กำลังถูกหลายฝ่ายรวมถึง “ฝ่ายค้าน” พรรคเพื่อไทย จ่อยื่นตีความพรุ่งนี้ (17 ส.ค.)  ท่ามกลางการสร้าง กระแสกดดันหลายทิศทางไล่มาตั้งแต่ “กลุ่ม 99 พลเมือง” “โพลสำรวจ” รวมถึงกลุ่ม “ตู่จตุพร-ทนายนกเขา-ไพศาล” ที่ก็รวมถึงกระแสข่าว “ลุงตู่” จะพลิกเกมสู้เพื่อไปต่อหากมีแนวโน้มว่าผลตีความจะออกมาว่าครบ โดยการ “ยุบสภา” หลังวันที่ 19 ส.ค.ที่งบประมาณ 66 ผ่านสภา ก่อนถึงวันที่ 23 ส.ค. ที่จะทำให้ “ลุงตู่” สามารถเป็นสามารถเป็น “นายกฯรักษาการ” ด้วยตัวเองไปได้อีก 3-4 เดือน ทันร่วมประชุมเอเปค ห้วงเดือน พ.ย.65 แถมยังอาจมีเกมตัดเกม “ฮั้วข้ามขั้ว” รับ “แลนด์สไลด์” ผ่านการย้อนตลบ “กม.เลือกตั้งส.ส.” ที่ยังไม่สะเด็ดน้ำอาจย้อนกลับไปกติกาเดิมปี62 ที่ทำให้ “3ป.” ออกอาการมึนๆตึงๆระหว่างพี่น้องจนลามไปยัง “ทีมแบล็คอัพ” ที่กำลังขัดแย้งสัปยุทธ์กันผ่านโซเชียลวันนี้ แต่หาก “ลุงตู่” เลือก “ลาออก” จะต้องให้คนอื่น มาเป็น “รักษาการนายกฯ” อย่างที่วันนี้ (16 ส.ค.) นักข่าวถามถึงกระแสข่าว “ชิงยุบสภา” ก่อนโดนตีความครบ 8 ปี ว่ามีโอกาสยุบสภามั้ย โดย ได้รับคำตอบเป็น “รอยยิ้ม” ที่มุมปากจาก “ลุงตู่” แบบ ไม่รับ ไม่ปฏิเสธ ก่อนจะเดินขึ้นตึกไป

 

@เรียกว่าอาการผ่านภาษากาย และสัญญานที่ปรากฎผ่าน“พี่น้อง 2 ป.” กำลังถูกหลายฝ่ายวิเคราะห์ไปถึงสถานการณ์ก่อนและหลังวันที่ 23 ส.ค.ว่าจะไปในทิศทางใด โดยคู่ขนานไปกับแรงเสียดทานจากกลุ่มการเมือง ที่ขยับเตรียมพร้อมในการกำหนดทิศทางตัวเองอย่างที่เห็นการลาออกจากพรรค พปชร.ของ “มาดามเดียร์” ไม่นับรวมการลงพื้นที่กันอย่างคึกคักของแต่ละพรรค ในท่ามกลางการออกมาของ “นักกฎหมายมืออ๋อง” หลายฝ่าย ทั้งที่เคยอยู่ใน กมธ.รัฐธรรมนูญ ไม่นับรวม บันทึกประชุม กรธ.ที่มีความเห็นของ “ซือแป๋มีชัย” และ “สุพจน์ ไข่มุกต์” ที่ออกมาทำนองเดียวกันกับ ปม วาระนายก8ปีนายกฯ

 

@อย่างที่ อดีตกุนซือรองนายกฯอย่าง “ไพศาล” ออกมาโพส FB เมื่อวานว่า มีความ ชัดเจนโดย 4 สถาน!!! โดยบอกว่า ความเห็นของ “ซือแป๋มีชัย” ประธาน กรธ.ถือว่ามีน้ำหนัก และว่า ปม 8 ปีนายกฯ มีความชัดเจนทั้ง 4 สถาน คือ 1 พระบรมราชโองการในรัชกาลที่ 9 โปรดเกล้าตั้งนายกตามรัฐธรรมนูญ 2557 ให้เป็นนายกตั้งแต่ 24 สิงหาคม 57 2.”รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 264 ” บัญญัติ ” ให้ถือว่า การดำรงตำแหน่งนายกตามพระบรมราชโองการนี้ เป็นนายกตามรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วย” 3. การประชุมจัดทำบันทึกเจตนารมณ์ร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 158 มีมติชัดเจนว่าให้นับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 57 จึงครบ 8 ปี วันที่ 23 สิงหาคม 2565 นี่คือความชัดเจนโดยเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 158 ประกอบมาตรา 264

 

@และ 4. มีการตัดสินเป็นบรรทัดฐานไว้แล้วในเรื่องแบบเดียวกันนี้ 2 คดีคือ คดี “นายสิระ” ซึ่งถูกจำคุกเมื่อปี 2538 “ก่อนรัฐธรรมนูญ 2560 ใช้บังคับ” แต่คุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ห้ามผู้ที่เคยถูกตัดสินจำคุกดำรงตำแหน่ง จึงต้องพ้นจากตำแหน่ง และ กรณี “นายกฯลุงตู่” ไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินในการดำรงตำแหน่งนายกปี 2562 มีการตัดสินเป็นบรรทัดฐานว่า “ลุงตู่” ดำรงตำแหน่งนายกฯมาตั้งแต่ปี 2557 โดยต่อเนื่อง จึงไม่ได้พ้นจากตำแหน่ง จึงไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ตามกฎหมายปปช. โดย “ไพศาล” บอกว่า นี่คือ ความชัดเจนโดย บรรทัดฐานของคำตัดสิน 2 คดี ที่ให้นับเวลาการดำรงตำแหน่งตั้งแต่ 24 สิงหาคม 2557 ดังนั้น จึงชัดเจนว่าวาระ 8 ปีสิ้นสุดลงในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 และการพ้น จากตำแหน่งดังกล่าวจะไม่สามารถ “รักษาการนายก” ได้ และไม่สามารถใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีหลังวันที่ 23 สิงหาคม 65 เวลา 24.00 น.ได้อีกต่อไป จึง เป็นหน้าที่ของประธานรัฐสภาจะต้องรีบ เรียกประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีทันที และ “ปลัดกระทรวง” ต้องรักษาการแทน “รัฐมนตรี” ตั้งแต่เวลาดังกล่าวเป็นต้นไป จนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้ารับตำแหน่ง.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube