คมนาคม เดินหน้ารถเมล์ EV -สาย 8 เผยโฉมใหม่
รัฐมนตรีฯ ศักดิ์สยาม ร่วมเปิดตัว รถเมล์สาย 8 โฉมใหม่ พลังงานไฟฟ้าฝีมือคนไทย เริ่มใช้พรุ่งนี้ 40 คันแรก ขณะ ขสมก. เร่งจัดทำ TOR นำรถ EV ให้บริการปีนี้ 400 คัน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการ รถโดยสารพลังงานไฟฟ้าสาย 2-38 หรือ สาย 8 เดิม ว่า นับเป็นโอกาสสำคัญของการเปลี่ยนแปลงระบบรถโดยสารสาธารณะของประเทศไทย ที่เปลี่ยนจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
เป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ส่งเสริมประเทศด้วยนวัตกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาฝุ่น pm 2.5 ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคม ตั้งเป้าในอนาคต จะขับเคลื่อนนโยบายนำรถเมล์ไฟฟ้ามาวิ่งให้บริการประชาชนในกรุงเทพฯและปริมณฑลครบ 237 เส้นทาง ซึ่งสาย 8 เป็นสายแรกที่เริ่มนำร่องในแผนปฏิรูป
โดยจะมีการประเมินผลปัญหาอุปสรรคการให้บริการในระยะเวลา 2 เดือน เพื่อขับเคลื่อนเป้าตามแผน โดยนำรถอีวี มาวิ่งให้บริการครอบคลุม 5,000 คันในระยะเวลา 3 ปี ในส่วนของ ขสมก. มีแผนนำรถ EV มาวิ่งให้บริการปีนี้ 400 คัน
อยู่ระหว่างการจัดทำ TOR และรอองค์การต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เข้ามาตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อเกิดความโปร่งใส นอกจากนี้ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถใช้บริการสาย 8 ได้ตามสิทธิเช่นเดิม
ด้าน นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด เปิดเผยว่า ในเฟสแรกบริษัทฯ มีรถเมล์พลังงานไฟฟ้าจำนวน 153 คัน ซึ่งจะทยอยนำมาวิ่งให้บริการล็อตแรก 40 คัน เริ่มวันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.65) และจะนำออกมาวิ่งครบทั้งหมดภายในเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมติดตั้งตู้ชาร์ตแบบฟาสต์ชาร์ต กำลังไฟ 310 กิโลวัตต์/ชั่วโมง
โดยการชาร์ตหนึ่งครั้ง จะใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที รถสามารถวิ่งได้ 4 รอบ จำนวน 280 กม.ต่อวัน ซึ่งจะกระจายตามอู่ต่างๆ ทั้ง 8 อู่ อู่ละ 20 หัวชาร์ต ครอบคลุม 71 เส้นทางที่บริษัทฯได้รับการสัมปทาน ซึ่งมีแผนเปิดให้บริการ ภายในปี 2565
อย่างไรก็ตาม รถทุกคันได้ติดตั้งเครื่องเก็บค่าโดยสารแบบ E-Ticket ซึ่งจะเริ่มใช้ 100% ได้ในเดือนกันยายน ควบคู่กับการใช้เงินสด โดยเป็นการเติมเงินไม่จำกัดขั้นต่ำ ผ่านระบบที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาเอง เพื่อเตรียมพร้อมเชื่อมต่อการเดินทาง แบบระบบเครือข่าย “รถ-เรือ-ราง” ครบวงจร ควบคู่ไปกับการฝึกอบรมพนักงานขับรถ
ซึ่งเรียกว่ากัปตันเมล์ และพนักงานต้อนรับบนรถโดยสาร ที่เรียกว่าบัสโฮสเตสให้มีความรู้ ความชำนาญในเส้นทาง และมีจิตวิญญาณของการให้บริการ คำนึงถึงความปลอดภัย ด้วยสโลแกน “เดินทางด้วยรอยยิ้ม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”
โดยเก็บค่าโดยสารตามเดิม คือ 15 , 20 และ 25 บาท นอกจากนี้ได้รับพนักงานจากสาย 8 เดิม มา ทำงานด้วยราว 15% ที่ผ่านการอบรม เพราะบางส่วนยังทำงานกับรถเมล์ร้อนที่ยังให้บริการอยู่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews