นายกฯ ย้ำ ส.ส.พปชร.ไม่มีโหวตอภิปรายสวนมติพรรค ยืนยันไม่แตกหัก ยังคงเหนียวแน่น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เตรียม โหวตสวนมติพรรค ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้น ว่า ได้ตรวจสอบกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก็ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคการเมืองว่ากันไป
ส่วนความสามัคคีภายในพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันว่า วันนี้ยังคงเหนียวแน่นด้วยการทำงาน เหนียวแน่นว่าจะทำให้ประชาชนอย่างไร ทำเพื่อชาติอย่างไร และดำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของเรา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นั่นคือหลักการของรัฐบาล หลักการของนายกรัฐมนตรี และหลักการของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ที่ร่วมกันทำงานในเวลานี้
นายกรัฐมนตรี ยังได้ระบุถึงการเปลี่ยนแสกทรงผมใหม่ว่าไม่เกี่ยวกับการสู้ศึกอภิปราย ก็ซึ่งพร้อมรับฟังและชี้แจงทุกเรื่อง ส่วนทรงผมก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผมที่มีอยู่ ก็ไม่คุ้นตัวเองอยู่เหมือนกัน ไม่ได้มีเคล็ดอะไรทั้งสิ้น
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกครั้งว่า ที่เปลี่ยนทรงผม เพราะอยากให้ดูหนุ่มเหมือนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาต่อยมวยโชว์ความฟิตหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า อย่าเอ่ยชื่อได้ไหม เขาไม่ได้อยู่ในประเทศ และในช่วงท้ายเมื่อถามว่าช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ จะไปร่วมประชุมมติอภิปรายที่พรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ได้ทำท่าชกมวย แต่ไม่ได้ตอบคำถามสื่อแต่อย่างใด
นายกฯ สั่งการหน่วยงานรัฐประชาสัมพันธ์เชิงรุกถึงผลงานการปราบปรามการทุจริต ยืนยัน รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจคดี บอส อยู่วิทยา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงดัชนีการทุจริตของประเทศไทย ซึ่งตนได้ให้ประชุมร่วมกันในส่วนของราชการ และภาคประชาชน การกำหนดมาตรการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงาน ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวก โดยมีกพร.เป็นเจ้าภาพ ปรับปรุงการประเมิน ITA เพื่อสะท้อนคะแนนของ ITA ให้มากขึ้น และหน่วยงานของรัฐต้องเร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุก ถึงผลงานในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น
อย่างคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน อย่างคดีบอส อยู่วิทยา โดยตนได้รับรายงานมาว่า มีการฟ้องร้องคดีใหม่ไปแล้ว และออกหมายแดงเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย โดยประชาชนสามารถติดตามได้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีความก้าวหน้าการประสานงานกับต่างประเทศ และได้ดำเนินการไปอย่างครบถ้วน เพียงแต่ต้องรอว่าเมื่อไหร่จะได้ตัวกลับมา ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจหรือเก็บเรื่องไว้ในกระเป๋า
ส่วนจำนวนคดีการทุจริตคอรัปชั่นที่อาจมีจำนวนมากขึ้น ขออย่ามองด้านเดียว เพราะตามกฎหมายไทย ใครก็ฟ้องร้องได้ แต่ทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอนการพิจารณาของศาลที่เกี่ยวข้อง ถูกต้องหรือไม่ก็ต้องตรวจสอบกันไป ทุกอย่างต้องมีหลักฐานตามกระบวนการยุติธรรมยืนยันว่าตนไม่อยากมีปัญหา หลายคนไม่เข้าใจก็เอามาพูดว่านายกฯไม่ทำอะไรเลย หากไม่ทำแล้วจะมีคดีหรือไม่ และมีการหนีคดีหรือเปล่า คนที่พูดก็ทราบดีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง กรณีที่ชาวประมงร้องเรียนขอวันทำการประมงเพิ่มเติมว่า ได้สั่งการให้คณะกรรมการพิจารณาตามความเหมาะสม จึงจำเป็นต้องดูแล เนื่องจากอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งคณะกรรมการได้พิจารณาไปแล้ว เป็นเรื่องที่เรียนเพื่อทราบ แต่ตนขอยืนยันว่าทุกอย่างต้องทำตามกฎเกณฑ์ของ IUU ต่อไป
นายกฯ เผย วัคซีนเข้าไทยลอตแรกปลายเดือน ก.พ.นี้ 2 ล้านโดส ยืนยันดำเนินการอย่างรอบคอบ ขอคนไทยอย่ายุ่งชุมนุมของเมียนมา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวถึงกรณีการนำเข้าวัคซีน ว่า ได้รับรายงานวัคซีนจะส่งเข้าไทยมาประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ลอตแรก 2 ล้าน เดือนมีนาคมอีก 8 ล้านโดส และเมษายน อีก 1 ล้านโดส ซึ่งยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างรอบคอบ และจะฉีดให้กับกลุ่มที่มีความเสี่ยงก่อน
ส่วนกรณีชาวเมียนมาในไทย นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนไม่อยากให้มีการชุมนุม เนื่องจากต้องระมัดระวังพอสมควร พร้อมขอฝากไว้สำหรับคนบางกลุ่มที่พยายามจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือยุยงปลุกปั่น ตนไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้โดยเด็ดขาด เพราะเป็นเรื่องของอาเซียนด้วยกัน ตนคงไม่พูดอะไรมากกว่านี้ ส่วนการประชุมหารืออื่นๆ ก็ต้องไปหาวิธีการว่าจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้
นายกฯ ชี้ถึงเวลาเอาการพัฒนาวิจัยเศรษฐกิจมานำการผลิต พร้อมอวยพรคนไทยให้มีความสุขในช่วงตรุษจีน ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวถึงเศรษฐกิจไทยในปี 2520 และปี 2530 ที่จะเห็นว่าการพัฒนาประเทศ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร จากประเทศที่มีรายได้จากภาคการเกษตรอย่างเดียว แต่ในปี 2530 มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงในการลงทุนภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น จนมาถึงทุกวันนี้ วันนี้ต้องเอาการพัฒนาวิจัยออกมานำการผลิต สู่การใช้ในภาครัฐและภาคเอกชน ขอสื่อมวลชนอย่าตีความที่ตนพูดไปเป็นเรื่องอื่นๆ
นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า ในส่วนของการทำงานที่เสนอเข้ามาผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการคัดกรองไปแล้ว ทั้งเงินกู้ คณะกรรมการสำนักงบประมาณการใช้จ่ายงบกลาง ประจำรายจ่ายประจำก็กำลังพิจารณาอยู่ตามลำดับความเร่งด่วนของการใช้จ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 มุ่งหวังดูแลประชาชนทุกส่วนทุกฝ่ายทุกภาคส่วนทุกจังหวัดทุกพื้นที่ ทุกท้องถิ่น จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง นี่คือนโยบายของรัฐบาล
จะร่วมมือกันทำให้ประเทศไทยให้มันเข้มแข็งโดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากต้องหาเป้าหมายให้เจอหาศักยภาพให้ครบ การสนับสนุนดูแลอย่างไร เพื่อให้มีรายได้เพียงพอ โลกเปลี่ยนค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ต้องทำควบคู่กับการสร้างความเข้มแข็งให้กับตัวเองพฤติกรรมของตัวเอง รวมถึงการปรับใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเรื่องความมีเหตุผลความพอประมาณ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่รัฐบาลยืนยันด้วยหลักการนี้มาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ขอให้มีความสุขในช่วงตรุษจีน ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้ ขอให้มีความสุขทุกประการ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news