Home
|
ข่าว

หน่วยงานรัฐนำร่องผนึกกำลังแก้หนี้ SME

Featured Image
หน่วยงานรัฐนำร่องผนึกกำลังแก้หนี้SMEด้อยคุณภาพ เงินต้น 8 พันล้านบาท เชื่อผู้ประกอบการจะสามารถกลับมาเดินหน้าธุรกิจได้อีกครั้ง

 

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมและดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าถึงสภาพคล่อง และที่มีปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs)ให้ฟื้นกลับมาเดินหน้าทางธุรกิจต่อได้

 

ทางธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank และ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือทางธุรกิจในรูปแบบหน่วยงานรัฐกับหน่วยงานรัฐ (G To G)

 

เป้าหมายเพื่อช่วยเหลือและแก้ปัญหาให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มหนี้ด้อยคุณภาพ ให้สามารถกลับมาพลิกฟื้น อยู่รอด และเติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

 

น.ส.รัชดา กล่าวด้วยว่า ความร่วมมือดังกล่าว ถือเป็นเป็นครั้งแรกของภาครัฐที่ร่วมบูรณาการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เป็นหนี้อย่างยาวนาน โดยจะนำร่องช่วยกลุ่มหนี้ด้อยคุณภาพที่มีหลักประกันที่เกิดขึ้นก่อนปี 2558 เงินต้นรวม ประมาณ 8,000 ล้านบาท

 

และเมื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีผ่านกระบวนการแก้ปัญหาต่าง ๆ จาก บสส. แล้ว ทาง ธพว. พร้อมต่อยอดผ่านกระบวนการด้านการเงิน และการพัฒนา ในโครงการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ ลดวงเงินผ่อนชำระเหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้

 

และเติมทุนใหม่เสริมสภาพคล่อง นำไปใช้บริหารจัดการธุรกิจ ซื้อวัตถุดิบ เพิ่มกำลังการผลิต หรือสร้างมาตรฐาน เป็นต้น

 

รัฐบาลเชื่อมั่นในศักยภาพของเอสเอ็มอีไทย และตระหนักถึงความสำคัญของการเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สำหรับเอสเอ็มอีที่ประสบปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพมาเป็นเวลานาน หากได้รับโอกาสได้เจรจาปรับโครงสร้างหนี้

 

และการช่วยเหลือฟื้นฟูบนเงื่อนไขที่ผ่อนปรนอย่างเหมาะสม ผู้ประกอบการจะสามารถกลับมาเดินหน้าธุรกิจได้อีกครั้ง ซึ่งจะดีต่อการจ้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวมอย่างแน่นอน

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube