เสียงคำรามจากพยัคฆ์พลัดถิ่น อย่างเฮียโทนี่ ทักษิณ ชินวัตร วันก่อนที่ทิ้งบอมม์ประเด็นสำคัญ โดยระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่ได้ไปต่อ จึงเป็นโอกาสของพี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง
ไม่ใช่แค่รักษาการ ซึ่งถ้าประวิตรได้เป็นนายกฯคนนอก พลังประชารัฐคงจะคึกคักขึ้นหน่อย แต่ถ้าหากไม่ได้เป็นแล้ว ยุบสภาเลย พลังประชารัฐคงไม่คึกคักเท่าที่ควร
ส่วนการเลือกตั้งสมัยหน้า พล.อ.ประวิตร และพลังประชารัฐ จะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ ทักษิณฟันธงว่า “คงไม่ใช่ประยุทธ์แน่..อาจเปลี่ยนจากทหารเป็นตำรวจ”ป.ที่ 4″ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งทักษิณรู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดี และเคยเป็นใหญ่เป็นโต สมัยรัฐบาลสมัคร
และมีบทบาทต่อเนื่องในฐานะตำรวจน้ำดี ผลงานเยี่ยม และชื่อของเขาอยู่ในวงสนทนาของระดับบิ๊กๆในทุกพรรคอยู่แล้ว แต่เป็นครั้งแรกที่เฮียโทนี่ พาดพิงว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯจากค่ายพลังประชารัฐ
เมื่อกวาดตามองไปทั่วยุทธจักรสีกากี บุคคลที่เข้าข่ายจะเป็น ป.ที่4 ได้ ณ เพลานี้มีคนเดียวนั้นคือ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา หรือบิ๊กแป๊ะ ในวัย 63 ปี อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อดีตสมาชิกวุฒิสภาไทย
โดยเขามีพื้นเพ มาจากอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรชายของนายประณีต ชัยจินดา นักธุรกิจคนดังแห่งอ่างศิลา จบการศึกษาจากวชิราวุธวิทยาลัย, โรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 36 ปริญญาโทสาขาบริหาร จากสหรัฐ
เส้นทางรับราชการถือว่าก้าวหน้ากว่าเพื่อนร่วมรุ่นมากมายนัก เพราะบิ๊กแป๊ะ ก้าวขึ้นสู่เจ้าพ่อนครบาลยศ พล.ต.ท.ในปี 2553 ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นบางคนยังเป็นแค่สารวัตรเท่านั้น ต่อมาสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น
บิ๊กแป๊ะถูกโยกย้ายไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค และหลังจากรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557ได้ถูกสั่งให้กลับมาคุมนครบาลเหมือนเดิม แทนที่ บิ๊กแจ๊ส พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ตร.สายนายใหญ่นั้นเอง
ต่อมา บิ๊กแป๊ะพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิตตำรวจ โดย ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ซึ่งมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานแทน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ติดภารกิจได้มีมติเป็นเอกฉันท์เลือก บิ๊กแป๊ะ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 11 สืบต่อจาก บิ๊กอ๊อด พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
และในวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็น นายตำรวจราชองครักษ์พิเศษซึ่งเป็นตำแหน่งสุดท้ายของ บิ๊กแป๊ะ ก่อนเกษียณอายุราชการ และที่ผ่านมา บิ๊กแป๊ะ มุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ มีผลงานมากมาย ซึ่งคดีหนึ่งที่สังคมชื่นชมอย่างมาก คือเหตุการณ์กราดยิงภายในศูนย์การค้าที่ โคราช ทางบิ๊กแป๊ะนำทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตั้งแต่ช่วงหลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 8 ก.พ.63 และอยู่ร่วมบัญชาการเหตุการณ์โดยตลอด จนคลี่คลายสถานการณ์ได้ในที่สุด
ด้านความสัมพันธ์นั้น บิ๊กแป๊ะ จัดเป็น1 ในลูกรักของ บิ๊กป้อม อย่าลืมว่า บิ๊กป้อมเป็นคนอนุมัติให้ บิ๊กแป๊ะ ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดรั้วปทุมวัน ทั้งๆที่มีอายุราชการเหลืออีกตั้ง 5 ปี และช่วงหนึ่งบิ๊กแป๊ะถูกลองของโดยลูกรักอีกคนของบิ๊กป้อม นั้นคือ”บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ต่อมาบิ๊กป้อม ลงมาเคลียร์ใจให้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง และในกาลต่อมา บิ๊กแป๊ะ โดดลงสนามชิงพ่อเมืองกรุงเทพ แต่ถูกผู้ใหญ่ขอจนต้องถอนตัว แว่วว่าถนอมตัวไว้รับตำแหน่งใหญ่ในอนาคต
อย่างไรก็ขณะขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากผู้เกี่ยวข้องว่า บิ๊กแป๊ะ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา จะเป็น บิ๊กปอ.ที่4 ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ จริงหรือไม่ อีกไม่นานได้รู้กัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews