งบฯรัฐ เดินหน้าดันเศรษฐกิจ
หนึ่งในช่องทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คือการเบิกจ่ายงบของภาครัฐทั้งรายจ่ายประจำ และงบลงทุน และหากอยากให้เกิดความสำเร็จของการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของหน่วยงาน จะต้องประเมินจากอัตราการเบิกจ่ายเงิน งบประมาณ 2 ประเภท
ทั้ง การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายภาพรวม และการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุน ที่จะต้องเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งในช่วงนี้ถือว่าเข้าเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2565 จึงทำให้ภาครัฐโดยกระทรวงการคลังต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายโดยเร็วที่สุดเพื่อกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้
โดยน.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การเบิกจ่ายภาครัฐในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2565 ยังคงเบิกจ่ายได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้
ซึ่งในส่วนของเดือนกันยายนที่เป็นเดือนสุดท้ายคงจะต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายโดยเฉพาะงบลงทุนของภาครัฐ ที่จะทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งการเบิกจ่ายผ่านทางกรมยังคงเร่งรัดการเบิกจ่ายในส่วนภูมิภาคต่างๆ
ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นอย่างดี โดยล่าสุดภาพรวมการเบิกจ่ายได้ทั้งหมดได้ร้อยละ 87.36 งบรายจ่ายประจำเบิกจ่ายร้อยละ 93.9 งบลงทุนเบิกจ่ายร้อยละ 60.05
ซึ่งทั้งปีน่าจะเป็นไปตามเป้า โดยกลไกภาครัฐยังเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการ เติบโตของเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังคงเน้นย้ำการเร่งรัดการเบิกจ่ายในช่วงเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ เพื่อเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จากเม็ดเงินการลงทุนจากภาครัฐ
ซึ่งจากการเปิดเผยของอธิบดีกรมบัญชีกลาง จะเห็นได้ว่าการเบิกจ่ายของภาครัฐยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยจะเดินหน้าต่อไปได้คงต้องใช้เครื่องยนต์หลายตัวในการขับเคลื่อน ที่นอกเหนือจากการเบิกจ่ายงบประมาณจากภาครัฐ
ทั้งภาคการส่งออก การท่องเที่ยว และการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ซึ่งหากรวมทุกเครื่องยนต์เดินหน้าได้อย่างเต็มที่เศรษฐกิจไทยในปีนี้คงขยายตัวได้มากกว่าร้อยละสามอย่างที่หลายสถาบันได้มีการประเมินเศรษฐกิจไทยไว้ในปีนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews