น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งกับการขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านเงินกู้ ซึ่งเกิดขึ้นในห่วงจังหวะที่โควิด-19 ระบาดหนัก เรื่อยยาวมาจนถึงปัจจุบัน
และแน่นอน โครงการคนละครึ่ง เป็นหนึ่งในหลายๆมาตรการที่ใช้เงินกู้ โดยรัฐบาลหวังผลกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย เพื่อสร้างแรงเหวี่ยงให้กับเศรษฐกิจไทยขยายตัวเติบโตไปจนถึงปีหน้า เพราะขณะนี้เห็นสัญญาณการชะลอตัว อันเนื่องมาจากราคาสินค้าและพลังงานแพง
สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ถามนายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย “นายสมชาย พรรัตนเจริญ” ถึงทิศทางราคาสินค้าก่อนจบไตรมาส 3 เชื่อมโยงไปไตรมาส 4 ของจะแพงขึ้นอีกหรือไม่ คำตอบที่ได้น่าสนใจ
โดย “นายสมชาย” กล่าวว่า ราคาสินค้าจะไม่แพงมากไปกว่านี้แล้ว นั่นเพราะกำลังซื้อของประชาชนไม่ดีพอที่จะรองรับของแพงขึ้นอีก ที่สำคัญ ผู้ผลิต ผู้ค้า ได้ขึ้นราคาสินค้าไปมากพอสมควรแล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ภาครัฐควรจะต้องทำก็คือ การสร้างแต้มต่อให้กับร้านค้า รายเล็ก รายน้อย เพราะวันนี้กลุ่มนายทุน 5-6 ราย กำลังขับเคลื่อน โดยมีเป้าหมาย คือ ร้านค้าโชว์ห่วยดึงมาเป็นสมาชิกเพื่อขายสินค้าของตัวเอง
“วันนี้นายทุนประมาณ 5-6 ค่าย พยายามจะเอาร้านค้าเข้ามาอยู่เป็นสาวก เพื่อจะให้ร้านค้าพวกนี้มาเป็นจุดขาย แล้วเขาก็จะกินหัวคิวจากร้านค้าพวกนี้อีกทีนึง ซึ่งตอนนี้ร้านค้าเหล่านี้มีปัญหา ในแง่ของการจัดซื้อ หรือว่าการบริหารเรื่องภาษี หรือแม้กระทั่งเครื่องรับ เครื่องรูด ซึ่งรัฐบาลไม่ให้รายใหญ่มีสิทธิรับโครงการนี้ เพราะว่าแย่งอาชีพ
ร้านพวกนี้ก็เอาพวกนี้มาเป็นสาวก คือเอาพวกโชว์ห่วยต่างๆเข้ามาในหลังคา เข้ามาในอ้อมกอดเขา เพื่ออาศัยคนเหล่านี้ เป็นคนรับสิทธิประโยชน์ที่รัฐให้กับผู้บริโภคประมาณสัก 30 ล้านคน รวมถึงคนละครึ่ง ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้รายใหญ่ 5-6 กลุ่มได้เปรียบ ได้ทั้งเป็นผู้ผลิตเอง ขายส่งเอง ขายปลีกรายย่อยเอง ได้เปรียบหมด”
นายสมชาย กล่าวอีกว่า การขับเคลื่อนของกลุ่มทุนมีมานานแล้ว ซึ่งภาครัฐรู้ไม่ทันเล่ห์ ขณะเดียวกันมองว่า ประเทศไทยติดกับดักสร้างกำลังซื้อ โดยรัฐบาลเชื่อกลุ่มทุนมากกว่า
“เขาสอนรัฐบาล คุณต้องเอาเงินมาแจก เพื่อสร้างกำลังซื้อ เพราะเวลาที่เศรษฐกิจจะตก คนไม่มีกำลังซื้อ เขาก็เอาเงินให้รัฐบาลกู้เงินมา แจกไปเลย พอแจกเสร็จก็ไปซื้อของที่เขาผลิต ส่วนใหญ่ทุกคนก็ไปซื้อจากสินค้าที่เป็นสำเร็จรูปจากนายทุนพวกนี้ สอนกิน สอนใช้ แต่ไม่ได้สอนหาตัง อาชีพการหาตังต่างๆ โดนแย่งไปหมด คนไทยก็จนลงเรื่อย ๆ โดยภาครัฐไปเชื่อว่าตัวเลขเติบโตที่พวกนี้จะสร้างขึ้นมา แต่ไม่ได้เติบโตจากการมีรายได้ แต่จริงๆเติบโตจากการที่คนข้างล่างไปกู้มา โดยรัฐใส่เงินให้ไปกู้ ไปกู้ อย่าผลตอนนี้บ้านนี้ เมืองนี้ เต็มไปด้วยหนี้ทั้งหมด”
และนี่ก็เป็นเสียงสะท้อนของคนในวงการค้าปลีกต่อการขับเคลื่อนของกลุ่มทุน ซึ่งจากนี้ต่อไปจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะทุกการขับเคลื่อนที่เชื่อมโยงกับนโยบายรัฐ ย่อมมีประชาชนเป็นเดิมพันนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews