@ เป็นอันว่า “นายกป้อมรักษาการ” ยังคงเป็นนายกรักษาการแทน “นายกลุงตู่” ต่อไปอีกเฮือกอย่างน้อยๆ ก็อีก 1 วีค หลังจากที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ โดย “เชาวนะ ไตรมาศ” เลขาธิการศาลรธน.นัดนักข่าวแถลง เกี่ยวกับปม “นายกฯ8ปี” ที่ด้วย สัญญาณการเมือง และความเคลื่อนไหวมากมาย
ช่วงต้นสัปดาห์ กับ การนัดพิจารณา “วาระพิเศษ” ในคดีนี้ ในวันที่ 8 ก.ย. ที่มีข่าวอาจเป็นทั้งการพิจารณาและการลงมติคำวินิฉัยเลย ก่อนจะตามมาด้วยข่าว 6:3 อันเป็นคุณกับ “นายกฯลุงตู่” เมื่อวันจันทร์ (5ก.ย.) ที่ตามมาด้วย “เอกสารคำชี้แจงของ “ซือแป๋มีชัย” ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) หลุดออกมาในโลกออนไลน์
@โดย “เลขาธิการศาลรธน.” แจงทั้งปม “วาระพิเศษ” ว่าไม่ได้เป็นการเร่งพิจารณาคดีแต่เป็นขั้นตอนปกติ รวมปม 6:3 ศาลรธน.ที่เป็นไปไม่ได้ เพราะยังไม่มีใครการลงมติ รวมถึง วันที่ 8 ก.ย. ก็เป็นเพียงการประชุม พิจารณาหลักฐานพยานว่าเพียงพอหรือไม่ที่จะนำไปสู่การวินิจฉัย ยังไม่ใช่เป็นการลงมติคำวินิจฉัย
และการนัดฟังคำวินิจฉัยก็ไม่ได้มีเงื่อนไขนัดเวลาว่าต้อง15วันอย่างที่มีข่าว ขั้นตอนของการพิจารณาในวันพรุ่งนี้ เป็นเพียงการนำข้อมูลข่าวสาร พยานหลักฐานที่ศาลขอมาจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย มีความเพียงพอที่จะพิจารณา และนำไปสู่การวินิจฉัยต่อไปได้หรือไม่ที่จะอ่านคำวินิจฉัย เพราะลำดับขั้นตอนเมื่อศาลพิจารณาพยานหลักฐานที่ได้มาแล้ว จะมีการอภิปรายว่า อยู่ในชั้นที่พอพิจารณา ตัดสินได้หรือไม่ ถ้ายังไม่พอ ในกระบวนวิธีพิจารณา ศาลจำเป็นต้องแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมกฎหมาย
@โดย คำร้องลักษณะของ “วาระดำรงตำแหน่ง” ไม่มีกำหนดเงื่อนไขเวลา แต่ขั้นตอนการพิจารณาคดีมีกำหนดเวลาไว้อยู่ โดยตามขั้นตอนกระบวนการพิจารณา ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีการปรึกษาหารือ และลงมติ ปกติคำร้องที่มีคู่กรณี ตามประเพณีปฏิบัติ ศาลจะลงมติกันในรุ่งเช้า และอ่านในช่วงบ่ายหรือเย็นวันเดียวกัน
การที่ศาลจะอ่าน ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่อยู่ระหว่างไต่สวน ศาลจะนัดล่วงหน้า โดยมีกรอบเวลาขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 7 วัน ให้คู่ความมาฟัง และ ในการพิจารณาศาลสามารถแจ้งคู่กรณีในการไต่สวนครั้งหลังสุดได้เลยว่า จะให้มาฟังเมื่อไหร่อย่างไร แต่ ณ เวลานี้การไต่สวนยังไม่มี ถ้าศาลจะนัด ศาลจะนัดตามเกณฑ์ของกฎหมายคือ ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 7 วัน
@ส่วนประเด็นเอกสารคำชี้แจงของ “อ.มีชัย” ที่ออกมาเชิง นับอายุ “นายกฯลุงตู่” เริ่มจากปี60 นั้น เลขาธิการศาลรธน.บอกว่า ยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นเอกสารคำชี้แจงของ “อ.มีชัย” จริงหรือไม่ แต่ประธานศาลรธน. ให้ความสำคัญ และกังวลเป็นอย่างมาก เนื่องจากนอกจากจะต้องติดตาม ตรวจสอบต่อไปว่า เป็นเอกสารที่มาที่ไปอย่างไรแล้ว
ยังกังวลจากเหตุที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ความเห็นนั้น และมีการพาดพิงกระทบผู้เกี่ยวข้องส่วนต่าง ๆ เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ได้นิ่งนอนใจ และให้ดำเนินกระบวนการตรวจสอบ เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป และมีความเสียใจว่าหลุดอย่างไร แต่กระทบต่อผู้ให้ความเห็น มีการพาดพิงคู่ความในส่วนต่าง ๆ ของคดีด้วย ขอให้สื่อให้ช่วยลงข้อมูลข่าวสารเรื่องนี้ว่า ข่าวสารดังกล่าวยังอยู่ในชั้นของการตรวจสอบข้อเท็จจริงของศาล และยังไม่มีข้อสรุป
@เรียกว่าการออกมาแถลงไขของ องค์กรศาลรธน.ถือเป็นการออกมาสยบแรงกระเพื่อมทางการเมือง ที่ก่อตัวมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ไปในตัว กับการโยงไปถึงการเร่งสรุปจบคดี “นายกฯ8ปี” เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศอำนาจ ที่ประเทศไทยจำต้องมี “นายกฯ2” คน คนหนึ่ง “ถูกพักงาน” คนหนึ่ง “รักษาการ” และถูกเทียบฟอร์มการบริหารจัดการบ้านเมือง โดยเฉพาะยิ่งปมร่องรอยความขัดแย้งของ “ศูนย์อำนาจ”
ระหว่าง 2ป.ที่เหมือนจะยังไม่คุยกันไม่ร่วมประชุมไม่ร่วมหมายเดียวกันมา2สัปดาห์ ผนวกกับ กระแสปรับครม.ที่ตามมา หลังจากมีการแก้ไขคำสั่ง “นายกฯน้อง” เรืองอำนาจ “นายกฯพี่รักษาการ” ที่ถูกจับเชื่อมกับ ปมพลิก 6:3 และ นัดประชุม “วาระพิเศษ” ที่ตามมาด้วยปม “เอกสารคำชี้แจงหลุด” ที่ทำให้ “ซือแป๋มีชัย” ถูกถึงเข้ามาร่วมใน “ตำบลกระสุนตก” ร่วมกับ “นายกฯลุงตู่” และทำท่าว่ากระแสจะถูกเร่งเร้า ให้ลุกลามขยายเป็นแรงกดดัน ไปยัง “ศาลรธน.” ที่จะวินิจฉัยปมข้อกฎหมายดังกล่าว อันเป็นส่วนสำคัญที่ จำต้องมีการออกมามีการเจาะรูระบาย ในจังหวะการเมืองกำลังมีอัตราเร่งการเปลี่ยนแปลงระยะสั้นและยาวเพื่อการไปต่อของแต่ละฝ่ายรวมถึง “ศูนย์อำนาจ3ป.” เองด้วยเช่นกัน.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews