นบข. เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 65/66
นบข. เห็นชอบหลักเกณฑ์-เงื่อนไข กรอบวงเงิน 150,127.75 ล้านบาท สำหรับจ่ายชดเชย-ค่าบริหารจัดการโครงการ และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 65/66 เตรียมเสนอ ครม. พิจารณา
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ หรือ นบข.ครั้งที่ 2/2565 ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุม
โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และกรอบวงเงิน เพื่อใช้สำหรับจ่ายชดเชยและเป็นค่าบริหารจัดการโครงการ และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ประกอบด้วยโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 (ปีที่ 4) วงเงิน 86,740.31 ล้านบาท,
มาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 (ปีที่ 4) วงเงิน 8,022.69 ล้านบาท และโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 วงเงิน 55,364.75 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 150,127.75 ล้านบาท โดยมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการ นบข. นำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาตามระเบียบต่อไป
พร้อมกันนี้ นบข. ได้พิจารณาตามที่องค์การคลังสินค้า หรือ อคส. และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือ อ.ต.ก. รายงานว่า ไม่สามารถปิดบัญชีโครงการข้าวตามนโยบายของรัฐบาล จำนวน 7 โครงการได้ ประกอบด้วย โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2551,
โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2551/52, โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552, โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55, โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555, โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 (7)
โครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 เนื่องจากการดำเนินการระบายข้าวคงเหลือยังไม่แล้วเสร็จ และการดำเนินการทางกฎหมายยังไม่แล้วเสร็จ นบข. จึงมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาโครงการฯ
ออกไป จากเดิม สิ้นสุด ก.ย. 65 เป็น สิ้นสุด ก.ย. 66 โดยให้ อคส. เร่งรัดการระบาย และ อคส./อ.ต.ก. เร่งรัดการดำเนินการทางกฎหมาย และให้รายงานฝ่ายเลขานุการทราบเป็นประจำทุกเดือน
นบข. มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ จาก ก.ย. 65 เป็น ก.ย. 66 ตามที่กรมการข้าวเสนอ โดยให้เร่งดำเนินการแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2566
พร้อมกันนี้ นบข. รับทราบแนวโน้มสถานการณ์การส่งออกข้าวไทย ปี 2565 โดยแนวโน้มการส่งออกข้าวไทยปี 2565 กำหนดเป้าหมายการส่งออกอยู่ที่ 7.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 7 ล้านตัน
โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี65 (ม.ค.-ก.ค.) ไทยส่งออกข้าวได้ 4.09 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 55% ของเป้าหมายการส่งออกแล้วทำให้การส่งออกข้าวไทยในปี 2565 มีแนวโน้มที่จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ ปริมาณน้ำฝนและน้ำในอ่างเก็บน้ำมีเพียงพอต่อการเพาะปลูกทำให้มีผลผลิตมาก, ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้, ค่าเงินบาทต่อเหรียญสหรัฐฯ อยู่ในระดับที่อ่อนค่า, ไทยส่งออกข้าวไปยังอิรักได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เฉลี่ยมากกว่า 100,000 ตัน/เดือน,
เกิดจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้มีการนำเข้าข้าวไทยไปใช้ทดแทนข้าวสาลีและข้าวโพดในอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น และมีการนำเข้าข้าวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารภายในประเทศ,
บังกลาเทศปรับลดภาษีนำเข้าข้าวนึ่งลงเหลือ 25% จากเดิมที่ 62.5% ซึ่งอาจเป็นโอกาสต่อการส่งออกข้าวนึ่ง ขณะที่มีอุปสรรค คือความต้องการนำเข้าข้าวบางส่วนเพื่อนำไปใช้ทดแทนข้าวสาลีมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง และราคาปัจจัยการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น เช่น ปุ๋ย
ทั้งนี้น.ส.รัชดา ระบุว่า นายจุรินทร์ ย้ำขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุม ขับเคลื่อนการปฏิบัติ และรายงานความคืบหน้าของการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ข้าวไทยที่เป็นรูปธรรมต่อที่ประชุม
นบข. ทุกครั้ง และให้กรมการข้าวให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดการประกวดพันธุ์ข้าว เพื่อให้ได้พันธุ์ข้าวพันธุ์ใหม่ พร้อมกับให้เร่งรัดการรับรองพันธุ์ข้าว เพื่อให้บรรลุยุทธศาสตร์ข้าวไทย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews