Home
|
ข่าว

“ทิพานัน” แจ้งปชช.ถูกเรียกเป็นพยานคดีทุจริตเราเที่ยวด้วยกัน

Featured Image
“ทิพานัน” แจ้งข่าวประชาชนถูกเรียกเป็นพยานคดีทุจริต “เราเที่ยวด้วยกัน” ให้ติดต่อสถานีตำรวจเจ้าของคดีก่อน เพื่อขอให้ปากคำใกล้บ้าน ย้ำคดีเดียวไม่เกี่ยวกับคดีอื่น ยันรัฐบาลเข้มปราบทุจริตโครงการรัฐ

 

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายในการปราบปรามการทุจริตโครงการรัฐ พร้อมเปิดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ

 

โดยได้ดำเนินการอย่างจริงจังและเข้มข้น เพื่อไม่ให้เม็ดเงินงบประมาณของประเทศเกิดการรั่วไหลนั้น พบว่าการดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ผ่านมา ช่วงวันที่ 1 ก.ย. 64 – 1 ม.ค. 65 มีการดำเนินคดีอาญากับผู้ทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกันแล้ว 323 คดี

 

ส่วนในการดำเนินการเอาผิดกับผู้ทุจริตได้นั้น อาจมีกรณีที่ต้องขอข้อมูลจากผู้ใช้สิทธิโครงการเป็นพยานในคดี หากโรงแรมหรือที่พักที่เข้าไปใช้สิทธินั้นมีการทุจริต โดยประชาชนที่ได้รับหมายเรียกให้ไปเป็นพยานในคดีทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน

 

ซึ่งอาจอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากสถานีตำรวจภูธรเจ้าของคดีนั้น เช่น ต้องเดินทางข้ามจังหวัด ก็ขอให้ประชาชนรีบติดต่อสถานีตำรวจตามหมายเรียก เพื่อขอคำแนะนำ และแจ้งถึงปัญหาการเดินทางในการไปเป็นพยานในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และขอให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธร หรือสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ที่ตนเองพักอาศัยอยู่

 

จากนั้นสถานีตำรวจที่ให้ปากคำ จะรวบรวมข้อมูลส่งไปยังศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อส่งต่อไปยังสถานีตำรวจเจ้าของคดีนั้นๆ ต่อไป

 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ประชาชนให้ความสนใจโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ส่วนต่อขยาย ที่รัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียน จองโรงแรม-ที่พักจำนวนสิทธิ 1.5 ล้านสิทธิโดยมียอดผู้ลงทะเบียนจองสิทธิที่พัก-โรงแรม เต็ม 1.5 ล้านสิทธิแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ย.65 ที่ผ่านมา

 

สะท้อนศักยภาพของโครงการที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน ผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง สนับสนุนการสร้างงานและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ

 

โดยผลสำรวจของสมาคมโรงแรมไทย ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. พบว่า อัตราการเข้าพักเดือนสิงหาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 48% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่โรงแรมที่มีรายได้กลับมาเกิน 50% มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากกลุ่มโรงแรมมากกว่า 4 ดาวเป็นหลัก

 

ทั้งนี้รัฐบาลพยายามหามาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนให้ครอบคลุมทั่วถึงทุกกลุ่ม โครงการต่างๆ ที่ประชาชนพึงพอใจ แก้ไขปัญหาตรงจุดเป็นผลสำเร็จได้ จำเป็นต้องอาศัยความซื่อสัตย์และสุจริตของทุกฝ่ายและทั้งระบบ เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube