“กอบศักดิ์” แนะดู7ปัจจัย ตปท.กระทบส่งออก-ค่าบาท
“กอบศักดิ์” แนะติดตาม7ปัจจัยต่างประเทศส่งผลกระทบส่งออก-ค่าเงินบาท ชี้สงครามรัสเซีย-ยูเครนกดดันราคาพลังงานสูงต่อเนื่อง
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวอภิปราย เรื่อง วิกฤตเศรษฐกิจและพลังงานโลก ในงานสัมมนาวิชาการประจำปี Energy Symposium 2022 ว่า ได้ประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปี2566 ว่าจะขยายตัวได้ 3-4%
โดยปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวได้ประมาณ 3% แต่ยังมีประเด็นที่ต้องติดตาม อยู่ 7 ประเด็นจากต่างประเทศ คือ 1.ความขัดแย้งระหว่างประเทศเดินหน้าต่อเนื่อง ทั้งสหรัฐ รัสเซีย และจีน 2.การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางต่างๆ 3.การลดลงของเงินเฟ้อโลก 4.การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ 5.การเริ่มของ Global Recessions 6.การอ่อนตัวของเศรษฐกิจจีนที่จะชัดเจนขึ้น 7.การก่อตัวของ Emerging Market Crisis
โดยหลังจากนี้ สิ่งที่จะกระทบกับผู้ประกอบการ คือ โอกาสของการส่งออกที่ลดลงจากต้นทุนสินค้าที่จะยังผันผวน อัตราแลกเปลี่ยนยังคงผันผวนและค่าเงินบาทที่จะมีแรงกดดันไปอีกระยะ ผู้ประกอบการไทยจะได้รับผลกระทบจากสินค้าจีนเมื่อวิกฤตจีนลุกลาม, วิกฤต Emerging Market จะมีหางเลขกระทบมาไทยช่วงหนึ่งเช่นกัน, การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป
ขณะที่การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ธปท. มองว่า สิ้นปีนี้ดอกเบี้ยของไทยน่าจะอยู่ที่ระดับ 1.25% และหลังจากนั้นจะติดตามความชัดเจนของสภาพเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศว่าจะเป็นอย่างไร
ด้านทิศทางราคาน้ำมันในระยะถัดไปคาดจะอ่อนตัวลง ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติ ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อ จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ลุกลามบานปลาย, Geopolitics ระหว่างสหรัฐและจีนที่ลุกลามบานปลายขึ้นจากสงครามการค้า
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews